แนวโน้มราคาทองคำ วันที่ 10 มิถุนายน 2556 (ยามเช้า)
+เล่าเรื่องเล่า สัปดาห์ที่แล้ว+
ทำไม ? ตัวเลขอัตราว่างงาน ออกมาที่ 7.6% ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมที่ 7.5% ปกติน่าจะตอบรับเรื่อง “ การคงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อ” และน่าจะเป็นผล”ลบ”ต่อค่าเงิน USD และเป็นผล”บวก”กับราคาทองคำ
แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น แถมไปกระแทกเรื่อง “ธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มลดการซื้อพันธบัตรในเร็วๆนี้” ซะอีก (เป็นผล”บวก”ต่อค่าเงิน USD และเป็นผล”ลบ”กับราคาทองคำ) กลับกันเลยคราวนี้
คงต้องมาย้อนดูเหตุผลที่สอดคล้องกันจริงๆ ก่อน ถึงจะเริ่มคาดการณ์แนวโน้มราคาในสัปดาห์นี้ได้
ทำไม ? ตัวเลขอัตราว่างงาน ออกมาที่ 7.6% ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมที่ 7.5% ปกติน่าจะตอบรับเรื่อง “ การคงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อ” และน่าจะเป็นผล”ลบ”ต่อค่าเงิน USD และเป็นผล”บวก”กับราคาทองคำ
แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น แถมไปกระแทกเรื่อง “ธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มลดการซื้อพันธบัตรในเร็วๆนี้” ซะอีก (เป็นผล”บวก”ต่อค่าเงิน USD และเป็นผล”ลบ”กับราคาทองคำ) กลับกันเลยคราวนี้
คงต้องมาย้อนดูเหตุผลที่สอดคล้องกันจริงๆ ก่อน ถึงจะเริ่มคาดการณ์แนวโน้มราคาในสัปดาห์นี้ได้
อันดับแรกต้องย้อนไปเมื่อวันที่ ลุงขุนช้าง (เบน เบอร์นันเก้) ประธาน Fed กล่าวในระหว่างการแถลงต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสเมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้วว่า “การลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการผ่อนคลายการเงินเชิงปริมาณ หรือ QE นั้น อาจจะมีขึ้นในการประชุมครั้งใดครั้งหนึ่งในอีกไม่กี่ครั้งข้างหน้า ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจด้านต่างๆ เช่นการใช้จ่ายของผู้บริโภค และตัวเลขจ้างงาน-ว่างงานของสหรัฐ” ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Fed ต่างก็ออกมาแสดงความคิดเห็น ทั้งในทำนองสนับสนุนและไม่สนับสนุนให้ Fed ดำเนินมาตรการ QE ต่อ พร้อมๆกับหลังการออกมากล่าวของ”ลุงขุนช้าง”แล้ว รายงานตัวเลขเศรษฐกิจก็ออกมา ดี สลับไม่ดี ส่งผลให้ตลาดหุ้นและทองคำ เคลื่อนไหวผันผวนมากในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ประเดนที่ 2 หากมองย้อนดูรายงานตัวเลขอัตราการว่างงาน(Unemployment Rate) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แม้จะออกมาเพิ่มขึ้นก็จริง แต่หากมองย้อนหลังกลับไป จะเห็นได้ว่า ตัวเลขว่างงานนี้ออกมาลดลงตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา และหากมองย้อนกลับไปตั้งแต่ต้นปี ตัวเลขนี้ก็ลดลงมาตลอด (สรุปสั้นๆ มันยังคงดี แม้จะยังดีไม่มากพอ)
ประเดนที่ 3 เรื่องเล็กๆ โดยด้านนายอลัน กรีนสแปน อดีตประธาน Fed กล่าวกับ CNBC เมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ว่า “Fed ควรยุติการซื้อสินทรัพย์ แม้เศรษฐกิจอาจจะยังไม่แข็งแรงพอก็ตาม” ซึ่งที่จริงแกกังวลเรื่องหุ้นสหรัฐฯ ที่ร่วงลงตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่แล้ว จึงคิดว่ายุติการซื้อสินทรัพย์จะเป็นการกระตุ้นดัชนีหุ้นสหรัฐฯ(Dow Jones) ได้ ซึ่งก็มีผลจริงๆ
ประเดนที่ 4 ซึ่งต่อเนื่องจากประเดนที่ 3 คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ออกมาเพิ่มสูงขึ้นที่ 175K ที่คาดว่าที่ 167K (แม้ไม่ได้มากมายอะไรมาก) พร้อมกับมีการปรับปรุงรายงานตัวเลขเมื่อครั้งก่อนลดลงที่ 149K จาก 165K และนั่นสะท้อนว่าเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และผลักดันให้นักลงทุนเทขายทองคำ เพื่อไปซื้อหุ้นหรือเงินUSD ขณะเดียวกันข้อมูลดังกล่าวยังทำให้นักลงทุนวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจเริ่มชะลอมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณ (QE) ในอนาคตอันใกล้
สรุปสั้นๆ ว่า กระแสที่ Fed จะชะลอมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณ (QE) ในอนาคตอันใกล้สามารถสร้างความกังวลแกนักลงทุนทองคำได้ จากตัวเลขกลุ่ม Job Date วันศุกร์ที่ผ่านมา
สรุปสั้นๆ ว่า กระแสที่ Fed จะชะลอมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณ (QE) ในอนาคตอันใกล้สามารถสร้างความกังวลแกนักลงทุนทองคำได้ จากตัวเลขกลุ่ม Job Date วันศุกร์ที่ผ่านมา
+โฟกัสวันนี้+
วันนี้รายงานตัวเลขค่อนข้างเบาบาง ทั้งตลาดออสเตรเลียและจีนเป็นวันหยุด โดยที่น่าจะส่งผลก็น่าจะเป็นเรื่องของ ประธาน Fed สาขาเซนต์หลุยส์ นาย James Bullard (เจมส์ บุลลาร์) พูดตอน 20:50 น. แน่นอนก็คงไม่พ้นเรื่อง ลดไม่ลด QE แต่คงจะมีผลไม่มาก
สำหรับสัปดาห์นี้ โฟกัสที่น่าสนใจอยู่ที่วันพฤหัสฯกับวันศุกร์ มากกว่า จะรายงานรายละเอียดเป็นรายวันอีกครั้ง
วันนี้รายงานตัวเลขค่อนข้างเบาบาง ทั้งตลาดออสเตรเลียและจีนเป็นวันหยุด โดยที่น่าจะส่งผลก็น่าจะเป็นเรื่องของ ประธาน Fed สาขาเซนต์หลุยส์ นาย James Bullard (เจมส์ บุลลาร์) พูดตอน 20:50 น. แน่นอนก็คงไม่พ้นเรื่อง ลดไม่ลด QE แต่คงจะมีผลไม่มาก
สำหรับสัปดาห์นี้ โฟกัสที่น่าสนใจอยู่ที่วันพฤหัสฯกับวันศุกร์ มากกว่า จะรายงานรายละเอียดเป็นรายวันอีกครั้ง
……………………………………
หมายเหตุ: บทความนี้ถูกจัดทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่เชื่อว่าหรือควรเชื่อว่ามี ความน่าเชื่อถือ และ / หรือมีความถูกต้อง อย่างไรก็ตามผู้จัดทำไม่รับรองความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลดังกล่าวข้อมูลและความเห็นที่ปรากฎข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผู้จัดทำไม่มีความประสงค์ที่จะชักจูงหรือชี้ชวนให้ผู้ลงทุนลงทุนซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ผู้จัดทำจึงไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการนำข้อมูลหรือความเห็นของเอกสารฉบับนี้ไปใช้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบในการตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: บทความนี้ถูกจัดทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่เชื่อว่าหรือควรเชื่อว่ามี ความน่าเชื่อถือ และ / หรือมีความถูกต้อง อย่างไรก็ตามผู้จัดทำไม่รับรองความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลดังกล่าวข้อมูลและความเห็นที่ปรากฎข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผู้จัดทำไม่มีความประสงค์ที่จะชักจูงหรือชี้ชวนให้ผู้ลงทุนลงทุนซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ผู้จัดทำจึงไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการนำข้อมูลหรือความเห็นของเอกสารฉบับนี้ไปใช้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบในการตัดสินใจลงทุน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น