Report News 30/9/56 #4

Report News 30/9/56 #4

USD:  Chicago PMI @55.7/54.5/53.0

แนวโน้มราคาทอง วันที่ 30/9/56 (รอบเย็น)

แนวโน้มราคาทอง วันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2556 (รอบเย็น)

สรุปภาพรวมของตลาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นับเป็นสัปดาห์ที่ราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวซื้อขายอยู่ในกรอบหรือ Sideway ออกด้านข้างโดยไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญนักของสหรัฐฯ โดยรวมราคาทองคำถูกครอบงำโดยบรรดาประธานเฟดสาขาต่างๆซึ่งได้ทยอยออกมาแสดงความคิดเห็น ซึ่งก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่ามีความคิดขัดแย้งกันค่อนข้างมากซึ่งส่งผลให้เกิดความผันผวนต่อตลาดและทองคำ โดยล่าสุดในวันศุกร์ Fed’s Evans ก็ออกมาแสดงความเห็นว่าเฟดอาจไม่มีการปรับลด QE ลงจนถึงปี 2014 เลย ซึ่งก็ส่งให้ราคาทองคำทะลุแนวต้านแถวบริเวณเส้นความเคลื่อนไหวเฉลี่ย 200periods ในกราฟรายชั่วโมงขึ้นไปอีก ซึ่งปัจจุบันเส้นดังกล่าวกลายเป็นเมืองหน้าด่านสำหรับการเหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลงไปซะแล้ว
สิ่งที่น่าสนใจและจับตาดูเป็นพิเศษสัปดาห์นี้
เริ่มกันที่วันจันทร์ ที่ตลาดอเมริกาเปิดฉากด้วยตัวเลข GDP ของแคนาดาเวลา 19.30น. ตบท้ายด้วยตัวเลข US. Chicago PMI เวลา 20.45น. ซึ่งถูกคาดว่าจะแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า วันอังคาร เปิดฉากกันแต่เช้าด้วยตัวเลขอัตราการว่างงานของญี่ปุ่นเวลา 06.30น. ต่อด้วย PMI ของจีนเวลา 08.00น. รวมไปถึงผลการประชุมธนาคารกลางออสเตรเลียเวลา 11.30น. ซึ่งถูกคาดว่าจะคงที่ที่ระดับ 2.50% (เป็นไปได้มาก) ในตลาดยุโรป Highlight ไปอยู่ที่ตัวเลขการจ้างงานของเยอรมนีเวลา 14.55น. ต่อด้วย PMI ของอังกฤษเวลา 15.30น. ซึ่งถูกคาดว่าจะแข็งแกร่งขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ตบ ท้ายด้วยตัวเลขอัตราการว่างงานของยูโรโซนโดยรวมเวลา 16.00น. ซึ่งถูกคาดว่าจะคงที่ที่ 12.1% ในตลาดอเมริกา Highlight อยู่ที่ตัวเลข ISM เวลา 21.00นซ ซึ่งถูกคาดว่าจะถอยลงเล็กน้อยหลังเดือนก่อนหน้าได้ออกมาแข็งแกร่งมาก วันพุธ อุ่นเครื่องกันที่ตลาดยุโรปเริ่มด้วยตัวเลข PMI construction ของอังกฤษเวลา 15.30น. ต่อด้วยผลการประชุมธนาคารกลางยูโรโซน (ECB) เวลา 18.45น. ซึ่งถูกคาดว่า ECB จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.50% อย่างไรก็ตามโอกาสพลิกล็อคอยู่ที่การผ่อนคลายนโยบายทางการเงินมากกว่าการเข้มงวดครับ อย่างไรก็ตามก็คงต้องรอดูรอฟัง ECB’s Draghi  ด้วย (ความเสี่ยง) ส่วนในตลาดอเมริกาก็น่าสนใจด้วยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯเวลา 19.15น. วันพฤหัสบดี เริ่มกันแต่เช้าด้วยตัวเลข PMI NM ของจีนเวลา 08.00น. ต่อในตลาดยุโรปด้วยตัวเลข SI ของอังกฤษเวลา 15.30น. ส่วนในตลาดอเมริกาก็น่าสนใจพอสมควรด้วยตัวเลข US. Jobless claims เวลา 19.30น. ตบท้ายด้วยตัวเลข ISM NM เวลา 21.00น. แถมด้วยบรรดาการพูดของประธานเฟดสาขาต่างๆอีกอย่างน้อย 3 ท่าน วันศุกร์ อุ่นเครื่องกันแต่เช้าด้วยผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งก็น่าสนใจพอสมควรเผื่อจะมีอะไรโผล่ออกมา และก็มีตัวเลข SI ของจีนด้วยเวลา 08.45น. ตบท้ายที่ตลาดอเมริกาด้วยตัวเลขการจ้างงานใหญ่ของสหรัฐฯซึ่งถือเป็น Major focus ของสัปดาห์นี้และสำคัญอย่างยิ่งและอาจมีอิทธิพลสูงต่อแนวโน้มผลของการประชุม (FOMC) ในเดือนตุลาคมนี้ อย่างไรก็ตามก็จะมีบรรดาความเห็นของประธานเฟดอีกหลายท่านด้วย

สิ่งที่น่าสนใจและจับตาดูวันนี้
ตลาดเช้าวันจันทร์ซึ่งปรกติก็มักจะมีความผันผวนได้ง่ายโดยเฉพาะถ้ามีเหตุการณ์หรือข่าวในช่วง Week-end ซึ่งคราวนี้ก็เป็นเรื่องการเมืองในอิตาลีกับปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ซึ่งก็ส่งให้ค่าเงินยูโรรูดลงแต่เช้า (Gap down) แต่ก็ยังคงอยู่เหนือแนวรับสำคัญแถวบริเวณ 1.3460+/- แต่ที่ดูจะย่ำแย่กว่าเพื่อนก็เห็นจะหนีไม่พ้นดัชนีหุ้นสหรัฐฯซึ่งรูดลง (Gap down) ทะลุแนวรับสำคัญไปแทบทั้งหมด โดยสาเหตุหลักก็มาจากความวิตกกังวลต่อปัญหาเพดานหนี้ซึ่งอาจนำไปสู่ Government shutdown โดยค่าเงินเยนได้รับอนิสงฆ์สูงสุดในฐานะ Safe haven currency และเมื่อ DJ รูดลง ค่าเงิน EUR.USD รูดลง ทองคำก็ได้รับอนิสงฆ์ไป (ผู้เขียนบอกถึงความสัมพันธ์ของสิ่งเหล่านี้ไปหลายครั้งแล้วนะครับ) แต่อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ปัจจัยบวกโดยตรงต่อทองคำนะครับ ส่วน Highlight ต่อไปก็คงเป็นตัวเลข US. Chicago PMI เวลา 20.45น. นี้ครับ  

แนวโน้มและกลยุทธ์ประจำวันนี้
ราคาทองคำได้ทะยานผ่านแนวต้านเมืองหน้าด่านแถวบริเวณเส้นความเคลื่อนไหวเฉลี่ย 200periods ในกราฟรายชั่วโมงขึ้นไปโดยได้รับข่าวกระตุ้นจากความเห็นของ Fed’s Evans ซึ่งได้ลดกระแสของโอกาสที่เฟดจะปรับลด QE ลงภายในสิ้นปีนี้ แต่ก็ยังไม่พอที่จะทำให้ราคาทองคำหลุดออกจากกรอบได้ ถึงแม้จะปิดอยู่ในแดนบนได้ และเช้าวันนี้ทองคำก็ได้รับอนิสงฆ์จากข่าวต่างๆซึ่งผู้เขียนได้รายงานไปแล้ว แต่การพุ่งขึ้นไปก็พบแรงเทขายลงมาอย่างค่อนข้างหนาแน่นและถือว่าไม่เข้าสูตรทางเทคนิคธรรมดาๆเหมือนครั้งวันที่ 26/09/13 Sentiment วันนี้จึงถือว่าแค่ Neutral ครับ กลยุทธ์วันนี้เนื่องจากราคาทองคำปรับตัวขึ้นก่อนและไม่ได้หลุดแนวต้านสำคัญอะไร (on basis close) กลับกลายว่าต้องดักขายครับ แต่เมื่อบทความนี้ถึง ท่านโอกาสดังกล่าวก็คงหมดไปแล้ว กลยุทธ์ที่เหลืออาจคงต้องรอผลของตัวเลขในสหรัฐฯก่อน ซึ่งถ้าออกมาแข็งแกร่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้อาจส่งผลลบต่อทองคำได้อีก ยังไงคงต้องดูแนวรับแถวบริเวณเส้นความเคลื่อนไหวเฉลี่ย 200periods ในกราฟรายชั่วโมงด้วย เบื้องต้นวันนี้เป็นวันจันทร์ประกอบกับศุกร์นี้จะมีการประกาศตัวเลขใหญ่และสำคัญมากจึงควรระมัดระวังในการเข้าลงทุนด้วยครับโดยเฉพาะการเข้าลงทุนแบบไล่ล่า ส่วนผู้เขียนคงมองหาจังหวะเข้าขายมากกว่าซื้อครับโดยเฉพาะถ้าผลของตัวเลขออกมาดีมาก อย่างไรก็ตามก็คงจะเตรียมพร้อมและทำการบ้านสำหรับผลของการประกาศตัวเลขการจ้างงานใหญ่ของสหรัฐฯในวันศุกร์เป็นหลัก นักลงทุนทุกท่านโปรดติดตามเรื่องเพดานหนี้ด้วยเพราะเป็นกระแสกันอยู่ขณะนี้ โดยเฉพาะโอกาสที่จะเกิด Government shutdown แต่ผู้เขียนคงไม่เข้าลงทุนในเรื่องราวประมาณนี้ครับ (มีกระแสกันมาพักใหญ่แล้ว) ขอให้ผู้อ่านและนักลงทุนทุกท่านโชคดีครับ  

แนวรับ-แนวต้าน ทอง วันที่ 30/9/56 updated at 18.22น.
R2=1343/1345*
R1=1338/1340
S1=1335/1333
S2=1330/1328*
S3=1325/1320  
.........................
หมายเหตุ: บทความนี้ถูกจัดทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่เชื่อว่าหรือควรเชื่อว่ามี ความน่าเชื่อถือ และ / หรือมีความถูกต้อง อย่างไรก็ตามผู้จัดทำไม่รับรองความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลดังกล่าวข้อมูลและความเห็นที่ปรากฎข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผู้จัดทำไม่มีความประสงค์ที่จะชักจูงหรือชี้ชวนให้ผู้ลงทุนลงทุนซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ผู้จัดทำจึงไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการนำ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบข้อมูลหรือความเห็นของบทความนี้ไปใช้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตามรอบคอบในการตัดสินใจลงทุน

Report News 30/9/56 #3

Report News 30/9/56 #3

German Retail Sales m/m
@ 0.5%/คาด 0.8% to 0.9%/ครั้งก่อน-0.2%

German Retail Sales y/y
@ 0.3%/คาด 0.6%/ครั้งก่อน-2.9%

ออกมาส่งผลลบกับค่าเงิน EUR บวกต่อค่าเงิน EUR แต่ราคาทอง ได้รับผลเล็กน้อย

Report News 30/9/56 #2

Report News 30/9/56 #2

ประเดนสำคัญวันนี้ หนีไม่พ้นเรื่องการจัดสรรงบประมาณปี 2014 ของสหรัฐฯ ที่ไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากสภาล่าง ซึ่งกุมเสียงส่วนมากโดยพรรครีพับลีกัน (โอบามาอยู่พรรคเดโมแครต) จนกว่าโอบามาจะยอมลดประกันสุขภาพลง แน่นอนงบไม่มี หน่วยงานภาครัฐฯของสหรัฐอาจปิดบริการบางส่วน เพื่อกดดันให้สภาเร่งอนุมัติ (เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้วในสหรัฐ โดยครั้งที่ปิดนานที่สุดคือปี 1995)ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงอาจมีปิดเพียง 2-3 วันก็ได้ ข่าวนี้ส่งผลทางลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทองอาจรับผลบวก

& HSBC Final Manufacturing PMI
@ 50.2 /คาด51.2 /ครั้งก่อน 51.2 (ส่งผลทางลบกับราคาทองพองาม)

คอนเสิร์ท สุดโรแมนติก

ติดต่อด่วน

Report News 30/9/56 #1

Report News 30/9/56 #1

JPY: Retail Sales y/y @1.1% /คาด1.1%/ครั้งก่อน -0.3%

แนวรับ แนวต้าน ราคาทอง วันที่ 30/9/56 (รอบเช้า)

แนวรับ แนวต้าน ราคาทอง วันที่ 30/9/56 (รอบเช้า)

R2=1350

R1=1340/1343

S1=1331/1327

S2=1319

โฟกัสข่าวที่จะส่งผลกับราคาทอง Week 30/9/56 - 4/10/56

โฟกัสข่าวที่จะส่งผลกับราคาทอง Week 30/9/56 - 4/10/56

 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการคลัง โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดระบุว่า สภาสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายชั่วคราว เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐสามารถดำเนินงานดำเนินต่อไปตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.จนถึงวันที่ 15 พ.ย. โดยไม่ต้องมีการปิดหน่วยงาน

ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เพื่อให้สภาฯผ่านร่างภายในวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปีงบประมาณในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ผู้นำพรรครีพับลิกันกล่าวว่า พวกเขาจะไม่ผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้

คงแทบไม่ต้องอรัมภบทอะไรมากมาย โฟกัสใหญ่สุดในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายการว่างงานที่ 6.5% ซึ่ง ว้าว ! แม้ดูจะยากสักนิดส์สำหรับ Weeki นี้ แต่ก็มีความเป็นไปได้ ที่ตัวเลขกลุ่ม Job Date ของสหรัฐฯ อาจจะออกมาดี โดยอ้างอิงจาตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงเมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา (อืม....)

*แต่งานนี้โฟกัสใหญ่ อาจโดนแย่งซีนจากคำพูดของ Ben Bernanke ในวันพุธ ตี 2 โดยมีกำหนดที่จะพูดในเซนต์หลุยส์  บางทีเขาอาจจะอ้างถึงวิกฤตเพดานหนี้ ซึ่งก่อให้เกิดความผันผวนในตลาดได้  และเขาอาจจะปล่อยคำแนะนำเกี่ยวกับนโยบายในอนาคต ซึ่งใกล้ๆสักนิด น่าจะพอจับทางแนวโน้มคำพูดได้บ้าง ติดตามกันตามติด ECB 1 ทุ่มครึ่ง อาจจะมีการออกนโยบายใหม่ ในที่ประชุมที่จะเกิดขึ้น ซึ่ง ณ จุดนี้อาจจะทำลายความน่าเชื่อถือของ ECB ได้ โดยเฉพาะการประชุมครั้งก่อน มีการแง้มเรื่องมาตรการ LTRO อีก (LTRO ย่อมาจาก Long-Term Refinancing Operations หรือมาตรการปล่อยเงินกู้ระยะยาวเป็นกรณีพิเศษของธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank))

เรื่องสุดท้าย ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ BOJ ยังคงนโยบายการเงินที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเดือนกันยายนและปรับเพิ่มการประเมินของเศรษฐกิจท่ามกลางสัญญาณการเติบโตที่เกิดจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของตน BOJ ประกาศเศรษฐกิจของญี่ปุ่นมีการฟื้นตัวในระดับปานกลางและจะยังคงเติบโต

………………………………………

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อราคาทอง วันที่ 30/9/56

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อราคาทอง วันที่30/9/56 

Welcome to JOB DATE WEEK

06:50 
JPY: Prelim Industrial Production m/m -0.2% / 3.4% (R+…3.2%)
JPY: Retail Sales y/y 1.1% / -0.3%
JPY: Retail Sales m/m 0.9% / -0.7%
08:45 
CNY: HSBC Final Manufacturing PMI 51.2 / 51.2
13:00
EUR: German Retail Sales m/m 0.9% / -1.4%
EUR: German Retail Sales y/y 0.6% / 2.3%
16:00 
EUR: Core CPI y/y 1.1% / 1.1%  
EUR: CPI Flash Estimate y/y 1.3% / 1.3%
20:45
USD: Chicago PMI 54.5 / 53.0

Report News 27/9/56 #2

Report News 27/9/56 #1

Gold up on Fed's Charles Evans suggests that tapering could be delayed till January 2014

ทองขึ้นเมื่อ ชาร์ลส์ อีแวนส์ ปธ.เฟดสาขา แสดงให้เห็นว่า อาจจะล่าช้าจนถึงมกราคม 2014

แนวโน้มราคาทอง 27/9/56 (เย็น)

แนวโน้มราคาทอง วันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2556 (รอบเย็น)

สรุปภาพรวมของตลาดเมื่อวานนี้

การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงต้นตลาดเป็นไปตามปัจจัยทางเทคนิคหลังราคาทองคำสามารถทะลุแนวต้านจิตวิทยา (ในรอบนี้เท่านั้นนะครับ) ขึ้นไปอย่างค่อนข้างแข็งแกร่งและปิดยืนยันได้ค่อนข้างสูง เมื่อต้นตลาดเมื่อราคาทองคำมีการปรับย่อลงก่อนแบบค่อยเป็นค่อยไปก็เลยมีแรงช้อนซื้อเก็งกำไรอีกระลอกตามสูตรทางเทคนิคธรรมดาและราคาทองคำก็ได้ขึ้นไปทำ New high เรียบร้อยเป็นอันสมบูรณ์แบบตามสูตรทางเทคนิคและก็ตามด้วยการเทขายทำกำไรลงมาโดยมีสัญญาณภาพ Bearish divergence ช่วยสนับสนุนทั้งใน Stochastic, RSI and MACD อย่างไรก็ตามราคาทองคำยังคงสามารถประคองตัวอยู่เหนือแนวรับแถวบริเวณเส้นความเคลื่อนไหวเฉลี่ย 200periods ในกราฟรายชั่วโมงได้จนเข้าสู่ตลาดอเมริกาและผลของตัวเลข Jobless claims และ GDP ซึ่งถูกประกาศออกมาพร้อมกันส่งให้ตลาดสับสนเล็กน้อยเนื่องจากออกมาคานกัน แต่ก็เพียงพอให้ตลาดเทขายทองคำเข้าทดสอบแนวรับอีกครั้งโดยตัวเลข Jobless claims ได้ออกมาแข็งแกร่งเหลือเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคราวนี้ทางแผนกแรงงานไม่มีการอ้างปัญหาจากคอมพิวเตอร์อีก ก็แสดงว่าแข็งแกร่งจริง การทดสอบแนวรับดังกล่าวยังคงพบแรงซื้ออยู่จนกระทั่ง Fed’s Kocherlakota (สายพิราบ , Dove) ออกมาแสดงความคิดเห็นตามสไตล์เดิมๆคือ ภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯยังคงอยู่ในเกณฑ์ต่ำและเพียงพอที่จะใหเฟดขยายกรอบการผ่อนคลายนโยบายต่อไป และก็ส่งผลให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นไปอีกระลอก (1335+/-) ก่อนที่จะรูดลงและทะลุแนวรับแถวเส้นความเคลื่อนไหวเฉลี่ย 200periods ในกราฟรายชั่วโม งลงมาจนได้ โดยถูกกระตุ้นหรือได้รับไฟเขียวจากข่าวทางแผนกแรงงานสหรัฐฯอีกว่า บางที 345,000ตำแหน่งงานอาจเพิ่มขึ้นในสิ้นปี 2013 นี้ โอ๊ย ขอโทษจริงๆ เขียนเป็นภาษาไทยบางครั้งยากจัง ไม่ค่อยได้ความหมายตรงกับภาษาอังกฤษ 100% แต่เขียนเป็นภาษาอังกฤษเลยก็เกรงว่าผู้อ่านบางท่านอาจไม่เข้าใจอีก เอ้า ก็เขียนมันซะ 2 ภาษาเลยซิ โอเค คงใช้เวลาอ่านกันทั้งวันเลยนะ สรุปจบข่าว

สิ่งที่น่าสนใจและจับตาดูวันนี้

กระตุ้นกันตั้งแต่ช่วงเที่ยงสำหรับคอนักลงทุนในสกุลเงิน โดยประธานธนาคารกลางอังกฤษได้ Quoted in Yorkshire post โดยกล่าวว่าเขามองไม่เห็นว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะมีการเพิ่มปริมาณ QE อีกแล้ว ส่งให้ค่าเงินปอนด์ทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วเกือบ 100จุด ส่วนค่าเงิน EUR.USD ก็ได้พบแรงซื้อเก็งกำไรอีกระลอกหลังจากเข้าทดสอบแนวรับแถวบริเวณเส้นความเคลื่อนไหวเฉลี่ย 200periods ในกราฟรายชั่วโมง โดยได้แรงกระตุ้นจากการคาดการณ์ที่ดีต่อตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคในภาคต่างๆของยูโรโซน และในที่สุดโดยรวมก็ได้ออกมาแข็งแกร่งใกล้เคียงคาด แต่ก็มีแรงเทขายทำกำไรกันออกมาบ้าง ส่วนในตลาดอเมริกาก็เบาๆด้วยตัวเลข PI & PCE ซึ่งถูกคาดว่าจะดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เวลา 19.30น. จบด้วย U.Mich sent (F) เวลา 20.55น. ซึ่งถูกคาดว่าจะมีการ Revised ดีขึ้นจากการประกาศครั้งที่แล้วซึ่งก็เป็นไปได้สูงว่าจะดีกว่าครับ แต่ก็คงไม่ใช่อะไรที่จะทำให้เฟดตัดสินใจอะไรได้ครับ โน่นน่ะ สัปดาห์หน้า ของจริง เตรียมตัวรับทรัพย์กันด้วยนะครับ

แนวโน้มและกลยุทธ์ประจำวันนี้
หลังการรูดลงทะลุแนวรับแถวบริเวณเส้นความเคลื่อนไหวเฉลี่ย 200periods ในกราฟรายชั่วโมงลงมาอีกระลอกจากข่าวซึ่งผู้เขียนได้แจงไปแล้ว โดยปรกติต้นตลาดวันนี้ถ้ามีการปรับตัวขึ้นก่อนแบบค่อยเป็นค่อยไปก็เหมาะแก่การเข้าดักขายเล็กๆใต้เส้นดังกล่าว ซึ่งสลับเป็นแนวรับแนวต้านอยู่ในช่วงสั้นๆนี้ แต่อย่างไรก็ตามโดยรวมราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบซึ่งยังคงไม่มีภาพและทิศทางที่ชัดเจนครับ ฉะนั้นถ้านักลงทุนไม่ได้เข้าดักขายทำกำไรสั้นๆขณะนี้ก็ถือว่า Mixed แล้วครับ โดยตลาดมุ่งไปลงทุนซื้อขายใน Product อื่นๆแทน อาทิเช่น ค่าเงินสกุลหลักๆต่างๆ ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ และน้ำมันดิบ เป็นต้น และภาพทางเทคนิคของทองคำวันนี้ถือว่ากั๊กครับ โอกาสจะลงต่อและจบด้านล่างกับดีดตัวกลับขึ้นไปอีกรอบมีใกล้เคียงกันแบบ 50:50 เลยทีเดียวครับ Sentiment วันนี้ถือว่า Neutral ครับ กลยุทธ์วันนี้สั้นๆคือ การดักขายซึ่งผ่านไปแล้วบ่ายต้นๆ ซึ่งสามารถจำกัดการขาดทุนได้ค่อนข้างง่าย ปัจจุบันอาจคงต้องรอผลของตัวเลขคืนนี้ก่อนและทำการซื้อขายสั้นๆตามผลของตัวเลข แต่ผู้เขียนก็ไม่แน่ใจนักครับคืนนี้ ภาพดู Mixed จริงๆ ยังไงก็ดูแนวรับแนวต้านซึ่งผู้เขียนส่งไปให้ประกอบแล้วกัน ส่วนตัวได้ดักขายทองคำไปที่ 1326.50 แต่ก็ตัดทำกำไรหนีไปแล้วที่ 1325.00 เองหลังราคาทองคำดีดตัวกลับขึ้นมาจากระดับ 1321 เอ้า แล้วทำไมไม่ตัดแถวบริเวณ 1321+ ล่ะ ก็กำไรมาเยอะแล้ว กะจะถือลุ้นไว้แบบประมาณว่า Let’s profit run บังเอิญมันดันไม่ Run ก็เลยตัดทิ้งไปแบบประมาณว่า Do not let profit turn into loss ขอให้ผู้อ่านและนักลงทุนทุกท่านโชคดีครับ    

แนวรับ-แนวต้าน ทอง วันที่ 27/9/56 updated at 17.51น.  GOLD

R2=1335/1340
R1=1328/1330*
S1=1321/1318
S2=1315*
S3=1310/1305

รายงานตัวเลขน่าสนใจ วันที่ 27/9/56

วันศุกร์นี้
ก็เริ่มที่ตลาดยุโรปด้วยตัวเลขความเชื่อมั่นภาคต่างๆของยูโรโซน เวลา 16.00น. , GER : CPI เวลา 19.00น.
ส่วนในตลาดอเมริกาก็จะมีการประกาศตัวเลข Personal income & spending เวลา 19.30น. ต่อด้วย  U.Mich sent (F) เวลา 20.55น.
และคับคั่งด้วยบรรดาประธานเฟดสาขาต่างๆตลอดทั้งวัน (ความเสี่ยงล้วนๆ)

แนวรับ แนวต้าน ทองคำ วันที่ 27/9/56 (รอบเช้า)

แนวรับ แนวต้าน ทองคำ วันที่ 27/9/56 (รอบเช้า)

R2=1333
R1=1325/1329
S1=1320/1318
S2=1313

Report News 26/9/56 #3

US : Jobless Claims ออก 305kคาด 325k vsl 309k

gdp (annualized)  ออก 2.5% คาด 2.6% vsl 2.5%

บทความแนวโน้มราคาทอง วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2556(รอบเย็น)

บทความแนวโน้มราคาทอง วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2556(รอบเย็น)
 
สรุปภาพรวมของตลาดเมื่อวานนี้

ในตลาดยุโรปค่าเงิน EUR.USD and GBP.USD ทะยานขึ้นอีกระลอกหลังผลของตัวเลขที่ดีเกินการคาดการณ์ของตลาด โดยเฉพาะทางด้านอังกฤษซึ่งถือว่าออกมาพลิกเลยครับ (34 vsfc 24 vsl 27) ส่วนทองคำการพยายามขึ้นไปยังคงพบแรงเทขายใกล้หรือบริเวณ 1330+/- ก่อนที่จะปรับตัวลงอีกระลอกและฝนตัวอยู่เหนือแนวรับแรกซึ่งผู้เขียนให้ไปแถวบริเวณ 1318 ก่อนที่จะมีการเหวี่ยงขึ้นลงจากผลของตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯซึ่งผู้เขียนก็ได้เขียนเตือนไปแล้วเมื่อวาน (ข้อสังเกตุ เมื่อไหร่ก็ตามที่ตัวเลขถูกคาดการณ์ไว้กั๊กและหรือผลออกมากั๊ก ตลาดก็สามารถเกิดการเหวี่ยงผันผวนได้ซึ่งจุดนี้เองอาจนำมาซึ่งควาเสียหาย(ขาดทุน)) ของบรรดานักลงทุนที่เข้าลงทุนแบบไล่ล่า ซึ่งผู้เขียนก็ได้เขียนเตือนไปหลายต่อหลายครั้งแล้ว อย่างเช่นกรณีนี้ ตัว Headline ออกมา 0.1% vsfc -0.2% ถือว่าดีกว่าคาดถูกมั้ยครับ แต่ราคาทองคำกลับดีดตัวขึ้นก่อนเฉยเลย นักลงทุนที่พลาดก็จะตั้งคำถามว่า เอ้า ทำไมราคาทองคำเกิดขึ้นไปล่ะ ทั้งๆที่ตัวเลขสหรัฐฯก็ออกมาดีกว่าคาดนี่ อีกคนก็จะตอบได้ว่า แต่ตัว Core น่ะ (Exclude transportations) ออกมาไม่ดีนะ (-0.1% vsfc 1.0%) โอเค แต่พอหลังจากเถียงกันสักพักราคาทองคำก็กลับรูดลงมาอีก เอ้า แล้วทำไมราคาทองคำกลับรูดมาอีกล่ะ เอ้า ก็ตัว Headline ออกมาดีไง ทั้งหมดนี่คือ เหตุผลที่ผู้เขียนมักจะไม่เข้าลงทุนในตัวเลขหรือผลของตัวเลขลักษณะนี้ เพราะ ขึ้นหรือลงมันก็อ้างได้ และถ้าในตลาดนี้มีเจ้ามือจริงมันก็ง่ายเลยที่จะสร้างความผันผวนไม่ขึ้นก็ลง โอเค ต่อไปที่ตัวเลขสำคัญคือ ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่งก็ได้ออกมาตามคาด ภาษาอัง กฤษว่า In line with expectation ผลก็คือ ราคาทองคำดีดตัวขึ้น คำถามตามมาอีกว่า เอ้า ออกมาตามคาดก็ถือว่าดีกว่าเดือนก่อนหน้านี่น่า แล้วทำไมราคาทองคำกลับดีดตัวขึ้นไปซะงั้น ผู้เขียนทราบดีว่าจะมีคำถามอย่างนี้ จำได้มั้ย ผู้เขียนจึงให้สถิติของตัวเลขนี้ย้อนหลังไปให้ดูกัน เมื่อท่านดูแล้วก็จะถึงบางอ้อว่า ผลของตัวเลขดังกล่าวไม่ได้ดีอะไรนักโดยเฉพาะสำหรับเฟด จอมดื่อ ที่คอยมองหาแต่เหตุผลที่จะไม่ลด QE ลง บวกกับราคาทองคำได้ทะยานหลุดแนวต้านซึ่งกลายเป็นแนวต้านสำคัญ (จิตวิทยา) ไป อันนี้ผู้เขียนก็บอกไว้แล้วเช่นกันเมื่อวาน (ใช่มั้ย)

สิ่งที่น่าสนใจและจับตาดูวันนี้
โผล่กันมาแต่เช้าแบบประมาณว่าไม่ได้ตั้งตัวกันเลย โดยเอาอีกแล้วสำนักข่าวปล่อยข่าวกันอีกแล้วว่า ทางญี่ปุ่นจะมีการลดภาษีที่เรียกว่า Corporate tax (มาหลายครั้งแล้ว) โดยญี่ปุ่นจะมีการให้ศึกษาถึงผลของการที่รัฐบาลจะลดภาษีดังกล่าว โน่นนี่นั่น สรุปก็เลยส่งให้ค่าเงิน USD.JPY ทะยานขึ้นทันที ผู้เขียนเคยบอกหลายครั้งแล้วว่า เมื่อค่าเงิน EUR.JPY ขึ้นหรือลงแรงๆจะมีผลต่อราคาทองคำยังไง (จำได้มั้ยครับ) กรณีนี้ก็คือ ส่งผลลบต่อราคาทองคำซึ่งก็เข้าทางนักลงทุนที่เข้าใจข่าว เป็นโอกาสได้เข้าช้อนซื้อทองคำถูกๆ ส่วนทางด้านตลาดยุโรปคราวนี้กลับกันกับเมื่อวาน ยกตัวอย่างเช่น เมื่อวานค่าเงิน GBP.USD อยู่ที่ด้านล่าง (แนวรับ) แล้วดันเจอกับข่าวดี ค่าเงิน GBP.USD ก็เลยทะยานขึ้นอย่างง่ายดาย ส่วนวันนี้ค่าเงิน GBP.USD อยู่ที่ด้านบน บังเอิญข่าวออกมาอ่อนแอกว่าการคาดการณ์ของตลาด ผลก็คือ ค่าเงิน GBP.USD รูดลงลล ครับโดยเวลา 19.30น. จะมีการประกาศตัวเลข 2 ตัวพร้อมกัน งานนี้ตีกันให้ยุ่งหรือเปล่าไม่รู้ ถ้าออกมาทิศทางเดียวกันก็คงไม่ยากนักที่จะเข้าลงทุน แต่ถ้าออกมาค้านกันก็คงจะยากหน่อยครับ ตัวที่น่าสังเกตุให้ดีก็คือ Jobless claims เนื่องจากผลที่ออกมาดี 2 สัปดาห์ติด ทางด้านกระทรวงแรงงานอ้างว่าเกิดจากปัญหาคอมพิวเตอร์ และคราวนี้ถูกคาดว่าจะกลับมาสู่ภาวะปรกติ ซึ่งปรกติคาดการณ์ว่า 325k ก็ถือว่าดีนะครับ ไม่ใช่เลวร้ายอะไร แต่ถ้าท่านไปเทียบกับ 309k ก็แน่ล่ะท่านคงคิดว่าไม่ดี (เข้าใจแล้วนะครับ) ส่วนตัวเลข GDP เป็นตัว Final ครับ ตลาดน่าจะมองข้ามไปที่ 3Q แล้ว แต่ก็นะ ตัวเลขนี้ตอน Adv (ประกาศครั้งแรก) ได้ออกมาดีเกินคาดค่อนข้างมาก (1.7% vsfc 1.0% ,31/07/13) ครั้งนั้นส่งให้ราคาทองคำรูดลงอย่างค่อนข้างแรง ต่อมาตัวปรับปรุง P (ประกาศครั้งที่สอง) ได้ออกมา (2.5% vsfc 2.2% , 29/08/13) ครั้งนั้นก็ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลงแต่ก็ไม่มากนัก และคราวนี้ตัว Final (ประกาศครั้งที่สาม ครั้งสุดท้าย) ก็ถูกคาดว่าจะถูกปรับดีขึ้นได้อีกและทางเฟดก็คงจะจับตาดูบ้างนะครับ ไม่รู้สิครับ ปรกติตัว Adv จะมีผลต่อตลาดมากที่สุดแล้วค่อยลดความสำคัญลงมาเรื่อยๆ    (ลงทุนง่ายมั้ยครับ ไม่ยากเนาะ ผู้เขียนบอกแล้วว่าเพียงแค่คุณเปิดใจเปิดตาให้กว้างขึ้น) ส่วนในตลาดอเมริกาก็น่าสนใจ อากำไรคืนเลย เพราะผู้เขียนแทง 10 พบกำไรก็ลดลงเหลือ 2 เป็นต้น ให้เจ็บใจกันเล็กๆ ขอให้ผู้อ่านและนักลงทุนทุกท่านโชคดีครับ  

แนวรับ-แนวต้าน ทองวันที่ 26/9/56 updated at 18.12น.  GOLD

R3=1347/1348
R2=1342/1345
R1=1338/1340
S1=1332/1330
S2=1328/1327* S3=1320/1316  
..................
หมายเหตุ: เอกสารฉบับนี้ถูกจัดทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่เชื่อว่าหรือควรเชื่อว่ามี ความน่าเชื่อถือ และ / หรือมีความถูกต้อง อย่างไรก็ตามผู้จัดทำไม่รับรองความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลดังกล่าวข้อมูลและความเห็นที่ปรากฎข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผู้จัดทำไม่มีความประสงค์ที่จะชักจูงหรือชี้ชวนให้ผู้ลงทุนลงทุนซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ผู้จัดทำจึงไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการนำ ข้อมูลหรือความเห็นของเอกสารฉบับนี้ไปใช้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบในการตัดสินใจลงทุน