Report News 31/10/56 #1
Unemployment Claims @340K / 341K / 350K
Report News 31/10/56 #1
Unemployment Claims @340K / 341K / 350K
แนวรับแนวต้านทองคำวันที่ 31/10/56 (รอบเช้า)
R2=1349/1350
R1=1342
S1=1334
S2=1329*
S3=1320
Gold Report FOMC
FED คง QE และยอดซื้อพันธบัครที่ $85,000 ล้าน ตามคาด...
โดย FED จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีเป้าหมายใกล้ศูนย์ "อย่างน้อยตราบเท่าที่" การว่างงานต่ำกว่าร้อยละ 6.5 และแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อจะไม่สูงกว่าร้อยละ 2.5
การที่ทองย่อลง เพราะ เป็นการเก็งกำไรก่อนหน้าแล้ว จากกระแสข่าวการลด QE ก่อนหน้า ส่งผลต่อราคาทอง
แนวรับแนวต้านทองคำวันที่ 30/10/56 (รอบเช้า)
R2=1350/1354
R1=1347
S1=1342/1340
S2=1336
รายงาน ตัวเลขน่าสนใจวันที่ 30/10/56
เริ่มกันที่ตลาดยุโรปด้วยตัวเลขการจ้างงานของเยอรมนีเวลา 15.55น. ซึ่งก็คงส่งผลโดยตรงต่อค่าเงินยูโรครับ (ทองคำอาจได้รับกระแสด้วยเล็กๆ) ต่อด้วยตัวเลขความเชื่อมั่นภาคต่างๆของยูโรโซนเวลา 17.00น. ซึ่งโดยรวมถูกคาดไว้ค่อนข้างดีครับ เข้าสู่ตลาดอเมริกายังคงคับคั่งไปด้วยตัวเลขสำคัญๆ เริ่มกันด้วยตัวเลข*การจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ เวลา 19.15น. ซึ่งถูกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นแต่น้อยกว่าเดือนก่อนหน้าซึ่งก็ออกมาค่อนข้างน่าผิดหวังเล็กๆอยู่แล้ว.....ต่อมาเวลา 19.30น.ก็จะมีการประกาศตัวเลข CPI (Consumer Price Index) ซึ่งยังคงถูกคาดว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับ Friendly Friendly ตบท้ายด้วยผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯซึ่งถือเป็น Major focus ประจำสัปาดห์นี้ และถูกคาดอย่างกว้างขวางว่าเฟดจะยังคงขนาดของ QE ไว้ที่ $85b
Report News 29/10/56 #5
USD Consumer Confidence (OCT) (prior 79.7) (survey 75.0) ACTUAL: 71.2
USD Business Inventories (AUG) (prior 0.4%) (survey 0.3%) ACTUAL: 0.3%
แนวรับแนวต้านทองคำวันที่ 29/10/56 (รอบเย็น)
R3=1360/1362 R2=1355 R1=1348/1350 S1=1340* S2=1336/1335 S3=1330
Report News 29/10/56 #4
สาเหตุเบื้องต้นที่ทองลงเกิดจากธนาคารเยอรมันกำไรลดลง94%
Report News 29/10/56 #3
Japanese Small Business Confidence (Oct) at 50.8 vs. 49.8 in September
Report News 29/10/56 #2
BoE's Miles says it would be catastrophic to raise interest rates before a meaningful drop in unemployment. $GBP falls towards a 3-day low
Report News 29/10/56 #1
เวลา 06.30น.กระทรวงกิจการภายในของญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า อัตราการว่างงานของญี่ปุ่นลดลงสู่ 4.0% ในเดือนก.ย.ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของ นักเศรษฐศาสตร์ โดยลดลงจากระดับ 4.1% ในเดือนส.ค.--
วันอังคาร ว่ากันแต่เช้าด้วยตัวเลขการจ้างงานญี่ปุ่นเวลา 06.30น. ต่อที่ตลาดยุโรปด้วยตัวเลขเยอรมัน GFK (สำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภค) เวลา 14.00น. ซึ่งก็คงมีผลเบาๆต่อค่าเงินยูโรโดยตรง เข้าสู่ตลาดอเมริกาก็คับคั่งไปด้วยตัวเลขมากมายซึ่งล้วนสำคัญแทบทั้งนั้นซึ่งอาจทำให้เกิดความไขว่เขวได้ เริ่มด้วยตัวเลข PPI (Producer Price Index) เวลา 19.30น. ซึ่งยังคงไม่ใช่อะไรที่ตลาดให้ความสนใจเท่าไหร่นัก (เงินเฟ้อยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ) แต่ในเวลาเดียวกันก็จะมีการประกาศตัวเลขยอดขายปลีกซึ่งถูกคาดไว้ค่อนข้างอ่อนแอครับ ตบท้ายด้วยตัวเลข Consumer confidence เวลา 21.00น. ซึ่งก็ถูกคาดไว้อ่อนแอเช่นกัน ดูเหมือนว่าอะไรๆก็จะเข้าทางทองคำ (Bulls) ไปหมด
แนวรับ แนวต้าน ทอง วันที่ 29/10/56 (รอบเช้า)
R2=1359/1360
R1=1355
S1=1351
S2=1348/1346
บทความแนวโน้มราคาทอง วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2556 (รอบเย็น)
สรุปภาพรวมของตลาดเมื่อวานนี้
ภาพรวมราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นหลังการพักตัวตามปัจจัยทางเทคนิคโดยได้รับกระแส Risk appetite สนับสนุนหลังตลาดโดยรวมเชื่อว่าเฟดคงไม่มีการปรับลดขนาดของ QE ลงในการประชุมปลายเดือนนี้ (29-30/10/13) ซึ่งก็เป็นผลบวกต่อดัชนีหุ้นสหรัฐฯ เป็นต้น โดยอาจจะมีสะดุดบ้างคือค่าเงินยูโร ซึ่งเป็นผลมาจากผลของตัวเลข PMI & SI ซึ่งได้ออกมาค่อนข้าง Mixed ค่อนไปทางอ่อนแอกว่าการคาดการณ์ของตลาดโดยรวม ส่วนในตลาดอเมริกาผลของตัวเลข US.Jobless claims ได้ออกมาสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดและก็ส่งผลให้ราคาทองคำดีดขึ้นสู่ระดับ New high ก่อนที่จะปรับย่อลงอีกระลอกหลังทางแผนกแรงงานสหรัฐฯได้ออกมาแจ้งว่าตัวเลขดังกล่าวยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาคอมพิวเตอร์ใน California (ไม่จบสักที) อย่างไรก็ตามแรงซื้อยังคงกลับเข้ามาและทำให้ราคาทองคำขึ้นต่อไปยังแนวต้านสุดท้ายที่ผู้เขียนให้ไว้ ส่วนดัชนีหุ้นสหรัฐฯก็ทะยานขึ้นต่อเช่นกันโดยได้อนิสงฆ์จากผลประกอบการโดยรวม (ส่วนใหญ่) ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งได้ออกมาแข็งแกร่ง สิ่งที่น่าสนใจและจับตาดูวันนี้ ในตลาดเอเชียผลของตัวเลข CPI y/y ของญี่ปุ่นซึ่งได้ออกมาสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด (1.1% vsfc 0.9% vsl 0.9%) ได้ส่งผลกดดันค่าเงิน USD.JPY รวมทั้งดัชนีหุ้นสหรัฐฯ Nikkei เสริมด้วยการที่ทางจีนได้ประกาศ Fixed the 7D Shibor at 4.89% (สูงขึ้นถึง 140bps ภายในสัปดาห์และถือว่าสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม) อัน เป็นผลมาจากสภาพตรึงเครียดของตลาดเงิน เข้าสู่ตลาดยุโรปค่าเงิน EURUSD ก็ได้ไต่ระดับขึ้นทำ New day high อีกจากการคาดการณ์ว่าตัวเลข IFO จะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดือนก่อนหน้า แต่ผลก็คืออ่อนแอกว่าการคาดการณ์ของตลาดและเดือนก่อนหน้า ส่งให้มีแรงเทขายค่าเงิน EUR.USD ลงมา ต่อด้วยค่าเงิน GBPUSD ซึ่งก็ได้ดีดตัวขึ้นรับการคาดการณ์ของตลาดที่ว่าตัวเลข GDP ประจำไตรมาสที่ 3 (ADV) จะออกมาแข็งแกร่งและแข็งแกร่งกว่าในไตรมาสที่ 2 และเมื่อผลได้ออกมาตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก็ส่งให้มีแรงเทขายทำกำไรกันลงมาตามสูตร Buy on rumor sell on fact ส่วนค่าเงิน USD ที่แข็งค่าขึ้นก็ส่งผลลบเล็กๆต่อทองคำ เข้าสู่ตลาดอเมริกาก็จะมีตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯซึ่งก็ถูกคาดว่าจะกระเตื้องขึ้นบ้างจากเดือนก่อนหน้า ส่งผลลบเล็กๆต่อทองคำซึ่งก็คงต้องติดตามกันนะครับ
แนวโน้มและกลยุทธ์ประจำวันนี้
ก่อนอื่นต้องขอโทษสำหรับบทความที่อาจจะล่าช้าไปหน่อย เนื่องด้วยผู้เขียนค่อนข้างยุ่งมากเล (แก้ตัวไปวันๆจนผู้อ่านเริ่มชาชินแล้ว)เมื่อวานผู้เขียนได้บอกไปแล้วใช่มั้ยว่าภาพการเคลื่อนไหวลักษณะนี้ตามสถิติย้อนหลังเป็นเช่นไร และนี้ก็ถูกบรรจุอยู่ในการสัมมนาด้วยขั้น Advance ในวันที่ 02/11/13 นี้ แต่ถ้าท่านพลาดการเข้าสัมมนาในวันที่ 26/10/13 นี้ก็อาจจะทำให้ยากแก่การเข้าใจถึงซึ่งอาจทำให้ประโยชน์ที่จะได้รับไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย วันที่ประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯผู้เขียนให้แนวต้านไว้สูงสุดเท่าไหร่ครับ แล้วราคาทองคำได้ขึ้นไปสูงสุดที่เท่าไหร่ เมื่อวานผู้เขียนให้แนวต้านสูงสุดไว้ที่เท่าไหร่ครับ แล้วราคาทองคำขึ้นไปสูงสุดที่เท่าไหร่ครับ ผู้เขียนไปเอาแนวต้านเป๊ะๆเหล่านี้มาจากไหน นั่งเทียนเขียนหรอ นี่ก็จะถูกบรรจุในการสัมมนาขั้น Advance ส่วนวันนี้ในเมื่อเมื่อวานราคาทองคำได้ทำ New high ไปแล้ว โอกาสการพักตัวอีกก็จะมีค่อนข้างสูงครับ โดยสถิติแล้วโอกาสที่ราคาทองคำจะขึ้นไปทำ New high อีกมีเพียง 1 ภาพ ใน 6 ภาพ ในขณะที่โอกาสของการพักตัวลงมาแต่ไม่หลุด Pattern กลับมี 3 ภาพ เหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลง (ขึ้นอีกแต่ไม่ทำ New high) 1 ภาพ และรูดลงหลุด Pattern กลับลงมาเฉยเลย 1 ภาพ สรุป
**Sentiment วันนี้ถือว่า Neutral to slightly bearish กลยุทธ์วันนี้คงเป็นการรอคอยผลของตัวเลขยอดสั้งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯว่าจะมีโอกาสทำให้ราคาทองคำดีดขึ้นได้อีกเฮือกหรือเปล่าเพื่อลดความเสี่ยงที่จะรูดลงทดสอบแนวรับสำคัญแถวบริเวณ 1330+/- Conservative investors หลีกเลี่ยงการลงทุนเพื่อรอดูไปก่อนก็จะดี อาทิตย์หน้าจะมีข่าวใหญ่ให้ลงทุน การฟอร์มตัวรอบนี้มีโอกาสทั้งการทะยานขึ้นอีกระลอก (ทะลุแนวต้าน 1352 ไปอย่างแข็งแกร่งอีก) กับหลุด Pattern กลับลงมา ส่วนผู้เขียนคงเน้นเตรียมตัวสำหรับงานสัมมนาวันพรุ่งนี้มากกว่า ยกเว้นถ้าผลของตัวเลขออกมาพลิกผันมากๆอาจคันแหย่เข้าไปหน่อยถ้ามีโอกาสเข้าปล้นซื้อสั้นๆ แต่ถ้าเป็นการกลับตัวลงมาคงรอการ Breakout เพื่อยืนยันก่อนครับ ขอให้ผู้อ่านและนักลงทุนทุกท่านโชคดีครับ เจอกันวันพรุ่งนี้ ผู้เขียนเชื่อว่าวิธีการลงทุนของท่านจะดีขึ้นอย่างแน่นอนและสำคัญที่สุดคือ อย่างยั่งยืนด้วย
แนวรับ-แนวต้าน ทองวันที่ 25/10/56 updated at 18.35น.
R3=1355
R2=1348/1352*
R1=1345
S1=1335
S2=1330/1328*
S3=1326.50/1325
....................
หมายเหตุ: บทความนี้ถูกจัดทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่เชื่อว่าหรือควรเชื่อว่ามี ความน่าเชื่อถือ และ / หรือมี ความถูกต้อง อย่างไรก็ตามผู้จัดทำไม่รับรองความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลดังกล่าวข้อมูลและความเห็นที่ปรากฎข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผู้จัดทำไม่มีความประสงค์ที่จะชักจูงหรือชี้ชวนให้ผู้ลงทุนลงทุนซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ผู้จัดทำจึงไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการนำข้อมูลหรือความเห็นของบทความนี้ไปใช้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบในการตัดสินใจลงทุน
Gold price new high 1355 Support today 1336
รายงานตัวเลขน่าสนใจวันที่ 25/10/56
เริ่มกันที่ตลาดยุโรปด้วยตัวเลขเยอรมัน IFO (สำรวจบรรยากาศทางธุรกิจ) เวลา 15.00น. ต่อด้วยตัวเลข GDP ประจำไตรมาส3 (Advance) ของอังกฤษเวลา 15.30น. ตบท้ายตลาดอเมริกาด้วยตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯเวลา 19.30น. และ U.Mich sent (Final) เวลา 20.55น.
แนวรับ แนวต้าน ทอง วันที่ 25/10/56 (รอบเช้า)
R2=1351
R1=1347
S1=1342
S2=1338
USD Initial Jobless Claims @350K Forecast: 340K Previous: 358K , USD
US Trade Balance (AUG) ACTUAL: -38.8B vs. -39.4B
บทความแนวโน้ม ทอง วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม 2556 (รอบเย็น)
สรุปภาพรวมของตลาดเมื่อวานนี้
ภาพรวมตลาดเข้าสู่ภาวะการพักตัวหลังค่าเงิน USD รูดลงอย่างค่อนข้างแรงจากผลของตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมซึ่งได้ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตามตัวเลขของสหรัฐฯใช่ว่าจะเลวร้ายไปซะทั้งหมด อัตราการว่างงานยังลดลงต่อเนื่อง (7.2% vsl 7.3%) แต่ก็คงไม่เพียงพอที่จะทำให้บรรดาประธานเฟดหลายท่านที่หัวแข็งจะยอมตัดสินใจลดขนาดของ QE ลงในการประชุมปลายเดือนนี้ (29-30/10/13) เป็นไปได้สูงว่าจะมีการตัดสินใจที่ขัดแย้งกัน แต่ที่น่าสนใจก็คือ ในการประชุมครั้งนี้ถูกระบุจะเป็นการประชุมแบบเปิดและตามด้วยการแถลงข่าวด้วย ปัญหาเปราะบางทางงบประมาณและเพดานหนี้ของสหรัฐฯก็ยังไม่ได้จบหรือลุล่วงด้วยดีสักเท่าไหร่เป็นแค่เพียงขายผ้าเอาหน้ารอด ฉะนั้นเฟดยังคงมีข้อแก้ตัวที่จะไม่ลดขนาดของ QE ลงในครั้งนี้ครับ การพักตัวได้รับการสนับสนุนด้วยจากข่าว (กระแส) ที่ตลาดวิตกต่อเงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้นอีกระลอกของจีนประกอบกับปัญหาหนี้เสียที่พุ่งขึ้นในธนาคารพานิชย์ใหญ่ๆของจีนและอาจนำมาซึ่งนโยบายที่เข้มงวดของทางจีน อย่างไรก็ตามมันก็แค่การพักตัวเท่านั้นครับ
สิ่งที่น่าสนใจและจับตาดูวันนี้
ผ่านไปแล้วสำหรับตลาดเอเชียโดยตัวเลข HSBC PMI ของจีนได้ออกมาดีกว่าการคาดการณ์ของตลาดเล็กน้อย ซึ่งก็ส่งผลบวกต่อ Risk appetite โดยรวม (ค่าเงิน USD อ่อนค่าลงเล็กน้อย) ส่วนสำหรับตลาดยุโรปผลของตัวเลข PMI & SI ของทั้งเยอรมนีและยูโรโซนโดยรว มได้ออกมาค่อนข้าง Mixed แต่อ่อนแอกว่าการคาดการณ์ของตลาดโดยส่วนใหญ่ซึ่งก็ได้กดให้ค่าเงินยูโรรูดลงจากระดับ New high กดดัน risk appetite บ้างเล็กน้อย (ตรงข้าม Risk appetite ก็คือ Risk aversion ซึ่งกลับเป็นอนิสงฆ์ต่อค่าเงิน USD เล็กๆ) ส่วนในตลาดอเมริกาตลาดน่าจะให้ความสำคัญต่อผลของตัวเลข US.Jobless claims ซึ่งยังคงถูกรบกวนด้วยปัญหาคอมพิวเตอร์ในบางรัฐของสหรัฐฯ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่ ทำให้คาดการณ์ผลต่อตลาดได้ค่อนข้างยากครับ อย่างไรก็ตามโอกาสที่จะออกมาในเกณฑ์ที่ดีกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าก็มีค่อนข้างสูงครับ ซึ่งก็อาจส่งผลบวกเล็กๆต่อทองคำ
แนวโน้มและกลยุทธ์ประจำวันนี้
หลังราคาทองคำทะยานหลุด Pattern เล็กๆอีกรอบที่ระดับแนวต้าน 1326.50 และผ่านแนวต้านระดับ 1330 ไปได้ไม่ยากเย็นนักจากผลของตัวเลข US.NFP ซึ่งทำให้แนวโน้มการที่เฟดจะลดขนาดของ QE ลงในการประชุมปลายเดือนนี้มีลดลงอย่างมาก กลยุทธ์ซึ่งผู้เขียนให้ไปในวันนั้นก็ยังคงทำงานได้ดีตามทุกเดือนที่ผ่านมา คราวนี้ตกอยู่ในช่วง 121k to 160k (148k) ซึ่งก็น่าจะทำให้นักลงทุนหลายท่านได้กำไรกันไปแบบพอหมดปากหอมคอนะครับ ผู้เขียนก็ได้กำไรแต่ไม่เท่าที่ควรเนื่องจากติดภาระกิจจึงไม่อยากมีกังวล (แก้ตัวหรอ) กำไรมากกำไรน้อยก็คือ กำไรครับ ดีกว่าไม่ได้เข้าลงทุนหรือขาดทุนนะครับ ขอแค่บทความนี้เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านและนักลงทุนทุกท่านผู้เขียนก็มีความสุขแล้วครับ วกมาเข้าเรื่องกันอีกครั้งการพักตัวได้เกิดขึ้นเมื่อวานนี้โดยได้รับข่าวลบทางจีน แต่ราคาทองคำก็สามารถยืนระดับได้ค่อนข้างดีแถวบริเวณ 1330+/- (อย่าลืมว่าแนวต้านของชุดที่แล้วที่หลุดขึ้นมาคือ 1326.50) ซึ่งจริงๆก็เหมาะแก่การเข้าช้อนซื้ออย่างยิ่งนักแต่บังเอิญเมือวานเป็นวันหยุดจึงไม่ได้ออกบทความให้ อย่างไรก็ตามจากภาพทางสถิติย้อนหลัง วันนี้โอกาสที่ราคาทองคำจะทะยานขึ้นอีกระลอกมีถึง 5 ภาพใน 7 ภาพ ส่วนอีก 2 ภาพคือการพักตัวต่ออีกวัน ส่วนภาพลงหรือหลุด Pattern กลับลงมาเลยไม่มีครับ (ไม่รู้ผู้เขียนหาไม่เจอหรือ
เปล่า เพราะกำลังหมกมุ่นกับการเตรียมพร้อมสำหรับงานสัมมนาวันเสาร์นี้ที่ 26นี้) อย่างไรก็ดูแนวรับแถวบริเวณ 1330+/- แล้วกันนะครับ เพื่อความไม่ประมาท Sentiment วันนี้ถือว่า Neutral to slightly bullish กลยุทธ์วันนี้เนื่องจากราคาทองคำได้ขยับขึ้นมาแล้วหลังทดสอบแนวรับไปเมื่อวานอย่างโชกโชน (ถึง 5 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย) การไล่ซื้ออาจดูสุ่มเสี่ยงพอสมควรถึงแม้การเข้าขายก็ไม่ได้สนับสนุน ถ้านักลงทุนท่านใดไม่ได้ช้อนซื้อไว้ตั้งแต่เมื่อคืนตอนนี้อานรอดูผลของตัวเลข US.Jobless claims ก่อนครับ ถ้าออกมาดีมาก (น้อยกว่า 320kโดยไม่มีข้ออ้างของทางแผนกแรงงานสหรัฐฯ) ก็น่าเข้าขายสั้นๆได้นะครับสำหรับบรรดา Bears แต่ส่วนผู้เขียนคงขอสละสิทธิ์ แต่ถ้าออกมาแย่ล่ะ (มากกว่าครั้งที่แล้ว) ก็น่าจะเข้าซื้อครับ แนวต้านสำคัญจะอยู่แถวบริเวณ 1343/1345 ครับ ถ้าสามารถทะลุขึ้นไปได้อย่างชัดเจน แนวต้านถัดไปจะกระโดดไปที่ 1348/1352 เลยครับ ด้านล่างดูที่ 1330+/- ตามด้วย 1326.50/1325 ครับ ขอให้ผู้อ่านและนักลงทุนทุกท่านโชคดีครับ
แนวรับ-แนวต้าน ทอง วันที่ 24/10/56 updated at 18.10น. R2=1348/1352
R1=1343/1345*
S1=1335/1333
S2=1330/1328
.................
หมายเหตุ: บทความนี้ถูกจัดทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่เชื่อว่าหรือควรเชื่อว่ามี ความน่าเชื่อถือ และ / หรือมี ความถูกต้อง อย่างไรก็ตามผู้จัดทำไม่รับรองความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลดังกล่าวข้อมูลและความเห็นที่ปรากฎข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผู้จัดทำไม่มีความประสงค์ที่จะชักจูงหรือชี้ชวนให้ผู้ลงทุนลงทุนซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ผู้จัดทำจึงไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการนำข้อมูลหรือความเห็นของบทความนี้ไปใช้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบในการตัดสินใจลงทุน