Gold Brief News 9/12/56
สรุปเหตุการณ์ราคาทองสัปดาห์ที่ ผ่านมา ซึ่งเป็นสัปดาห์รายงานตั วเลขเศรษฐกิจกลุ่ม Job Date ของสหรัฐฯ ที่มีทั้งรายตัวเลขการจ้ างงานภาคเอกชนซึ่งสำรวจโดยบริษั ทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐฯ หรือ ADP รายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิ การว่างงานประจำสัปดาห์ และรายงานตัวเลขHighlight อย่างการจ้างงานนอกภาคเกษตรฯ ที่ทุกตัวเลขทยอยออกมาดีตามกั นไป
สำหรับตัวเลขเศษฐกิจในสหรัฐฯอื่ นๆ ภาพรวมออกมาดีขึ้น รวมถึงธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติ การณ์ในการประชุมวันพฤหัสบดี และไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆเกี่ยวกั บการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติ ดลบ.....แน่นอนจากปัจจัยพื้ นฐานดังกล่าวส่งผลลบต่ อราคาทองคำมากกว่า
โดยที่กรอบราคาของสัปดาห์ที่ผ่ านมา โดยนับตั้งแต่จุดสูงสุดของวันจั นทร์จนถึงจุดที่ราคาทองเคลื่ อนไหวลงมาถึงจุดต่ำสุด มีการย่อตัวลงมาถึง 37เหรียญโดยประมาณ แต่หากมองจากจุดสูงสุดของวันจั นทร์จนถึงจุดที่ราคาทองปิดตลาด มีการปรับตัวย่อลงมา 19 เหรียญ
ขณะที่นักลงทุนหลายท่านมี คำถามเกิดขึ้นว่า ตอนที่ประกาศรายงานตั วเลขนอกภาคเกษตรฯสหรัฐฯ ทั้งที่ จากผลสำรวจของภาคเอกชนในวันพุธ และประกาศโดยกระทรวงแรงงานสหรั ฐฯในวันศุกร์ ล้วนออกมาดี โดยปกติราคาทองคำก็น่าจะปรับตั วลงมาต่อเนื่อง แต่ราคาทองกลับมีการย่อลงมาก่ อนแล้วค่อยดีดกลับขึ้นไป แถมยังปรับตัวขึ้นสูงกว่าตอนที่ ราคาลงมาอีก ทั้งวันพุธและวันศุกร์.... โดยเราหาคำตอบมาได้ 3 ประเดน คือ
1. ราคาทองได้ลงเคลื่อนไหวมาอยู่ บริเวณที่ใกล้ราคาที่อ้างว่า เป็นราคาที่ใกล้ราคาที่บรรดาผู้ ประกอบการเหมืองทองเคยกล่าวไว้ ว่า หากราคาทองต่ำกว่า 1200 USD ต่อ ทรอยออนซ์ จะมีการหยุดทำเหมืองทอง
2. เหตุผลธรรมดาที่สุดก็คือ ของถูกใครๆก็แห่เข้าซื้อ กรอปกับอีกทั้งราคาทองขึ้นถึงจุ ดแนวต้านทางเทคนิคที่สำคัญได้ แก่บริเวณ 1250 ถึง1251 ในวันพุธและ 1233 ในวันศุกร์ โดยประมาณ และนั่นเป็นสัญญาณที่นักลงทุ นกลับมาเห่ขาย
3. สำหรับข่าวที่ไม่ได้กรอง ก็มีกระแสการเข้าซื้อของถู กจากบรรดากองทุนทองคำ และบรรดา Hedge Fund ต่างๆ
เหล่านี้คือปัจจัยต่างๆที่ส่ งผลกับราคาทองเมื่อสัปดาห์ที่ผ่ านมา
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่น่ าสนใจสัปดาห์นี้
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำสัปดาห์ นี้ เริ่มด้วยรายงานตัวเลขเศรษฐกิ จประจำสัปดาห์ ที่ส่งผลกับราคาทอง
วันจันทร์: รายงานตัวเลขเศรษฐกิจค่อนข้ างเบาบาง
08:30 น. รายงานตัวเลข ดัชนีผู้บริโภค หรือ CPI ของจีน ซึ่งคาดว่าลดลง
14:00 น. รายงานตัวเลขดุลการค้าของเยอรมั นนี ซึ่งคาดว่าลดลง
18:00 น. รายงานตัวเลขภาคการผลิตโรงงานอุ ตสาหกรรมของเยอรมัน เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยคาดว่าเพิ่มขึ้น
ตี 1 ห้านาที นายเจมส์ บุลลาร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯหรือ Fedสาขาเซนต์หลุยส์ ออกมารายงานและแสดงความคิดเห็ นในเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งอาจมีผลบ้างนิดหน่อย เพราะเป็นสมาชิก Fed ที่มีสิทธิ์ในการVote เสียงในการกำหนดดอกเบี้ ยและนโยบายของ Fed
วันอังคาร: รายงานตัวเลขเศรษฐกิจค่อนข้ างเบาบาง
12:30 น. รายงานตัวเลขภาคการผลิต และยอดค้าปลีก ของจีน ซึ่งคาดว่าจะลดลงและคงที่
19:00 น. นายมาริโอ ดาร์กี้ ออกมากล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจ และเรื่องอัตราดอกเบี้ยของยู โรโซน
สำหรับฝั่งสหรัฐฯไม่ค่อยมี รายงานตัวเลขอะไรที่น่าสนใจ
วันพุธ: รายงานตัวเลขเศรษฐกิจค่อนข้ างเบาบางอีกเช่นกัน
14:00 น. รายงานตัวเลข ดัชนีผู้บริโภค หรือ CPI ของยูโรโซน ซึ่งคาดว่าคงที่
22:30 น. รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ
ตี 2 งบดุลรัฐบาลสหรัฐฯ หรือ Federal Budget Balance ซึ่งคาดการณ์ว่าจะติดลบเพิ่มขึ้ น
วันพฤหัสฯ: แต่เช้าตรู่
07:30 น. รายงานตัวเลขการจ้างงานและอั ตราการว่างงานของ ออสเตรเลีย ซึ่งคาดว่าตัวเลขทั้งคู่ จะออกมาแย่กว่าครั้งก่อนเล็กน้ อย
ข้ามมาฝั่งสหรัฐฯ มีรายงานตัวเลขตอน 2 ทุ่มครึ่ง อันได้แก่ ตัวเลขยอดค้าปลีก ที่มีการคาดว่าจะดีขึ้นและตั วเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่ างงานในสหรัฐฯประจำสัปดาห์ ซึ่งงานนี้คาดการว่าลดลง
วันศุกร์: ตบท้ายเบาๆ ด้วยรายงานตัวเลขฝั่งสหรัฐฯอย่ าง ดัชนีราคผู้ผลิต ซึ่งคาดว่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
*ทั้งหมดทั้งมวลชี้ให้เห็นว่า แนวโน้มราคาทองสัปดาห์หน้ามี กรอบราคากว้างๆแบบน่าเกลียดนิ ดๆที่ บริเวณแนวต้าน 1243 และแนวรับที่ 1213ใกล้เคียงกรอบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่ านมา โดยโอกาสที่ราคาทองจะต่ำกว่า1200 ขณะนี้ยังไม่เห็น แม้มองจากภาพรวมเหมื อนราคาทองกำลังรอเลือกทาง แน่นอนส่วนหนึ่งรอผลการประชุม Fed ในวันที่ 17-18 ธันวาคม 56 นี้ หรือสัปดาห์หน้านี้เอง
แนวรับ-แนวต้าน ทองคำ วันที่ 9/12/56
R3=1243
R2=1236
R1=1232
S1=1223
S2=1220
S3=1217
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น