GOLD Report 3/9/57 @07:14
ราคาทองรูดลงจากค่าเงิน USD ที่แข็งค่าอย่างมากโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับค่าเงิน JPY แถมตามติดด้วยตัวเลขสหรัฐฯ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ แตะที่ 57.9 ในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นจาก 55.8 ในเดือนก.ค.
ขณะที่สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 59.0 ในเดือนส.ค. จากระดับ 57.1 ในเดือนก.ค. โดยตัวเลขเดือนล่าสุดนั้นเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2554 และเป็นการขยายตัวเดือนที่ 15 ติดต่อกัน
ต่อเนื่องด้วยตัวเลข"การใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง"ปรับตัวขึ้น 1.8% มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2555 สู่ระดับ 9.813 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2551 หรือในรอบ 5 ปีครึ่ง อันเนื่องมาจากการสร้างบ้านและการก่อสร้างในภาคเอกชนที่ปรับตัวขึ้น สัญญาณทั้งหมดเหล่านี้ยิ่งกดดันราคาทอง
แม้ระหว่างวันจะมีข่าวว่ารัฐบาลยูเครนได้ออกมาเตือนถึงความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นในภาคตะวันออกของประเทศ แม้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ เดินทางเยือนประเทศในยุโรปตะวันออก เพื่อให้คำมั่นต่อประเทศในภูมิภาคทะเลบอลติก และส่งคำเตือนถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียโดยตรงเกี่ยวกับพันธกิจทางทหารที่จะส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศพันธมิตรขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ก็ไม่ได้ผลักดันราคาทองแต่อย่างใด
ขณะที่กระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงินเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซน หลังจากที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี ได้ส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของอีซีบีพร้อมที่จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจของภูมิภาค
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น