วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556

แนวโน้มราคาทองคำ12.03.13 "กลับตัวก็ไม่ได้ ให้ลงต่อไปก็ไปไม่ถึง


$Fundamental & Event Analysis
<USA Head Line>
*1.ประเด็นSequester เป็นภาพใหญ่ ที่กดดันUSD ในระยะกลาง หากยังไม่มีการ กลับมาคุยกันใหม่ ของทั้งสองพรรค
*2.ตัวเลข Non Farm Payrolls /Unemployment Rate ออกมาดีมาก แต่ดันออกมาไม่ที่ถูกเวลา ผิดกาละเทศะ
-ประเด็นเรื่อง Sequester หรือการตัดงบประมาณการคลังแบบอัตโนมัติ นั้น ผมมองว่าเป็นประเด็นหลักที่ยังกดดันค่าเงินUSD และทำให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้าง จะเห็นได้จาก แม้กระทั่งตัวเลข Non Farm Payrolls /Unemployment Rate ที่ประกาศออกมาดีมาก แต่ว่าก็ไม่สามารถทำให้ ราคาทองคำหลุดต่ำกว่าแนวรับ สำคัญกรอบ 1565-1560 ลงไปได้ แต่ราคาทองคำก็ยังไม่สามารถที่จะดีด สลับขึ้นผ่านแนวต้าน สำคัญด้านบนแถวเขต 1585+/- ขึ้นไปได้ อยู่ดี อาการมประมาณว่า "กลับตัวก็ไม่ได้ ให้ลงต่อไป ก็ไปไม่ถึง" อย่างที่เห็นกันอยู่

<ยุโรป Head Line>
*Italy ถูกลดเครดิต จากประเด็นความไม่แน่นอน ในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่
-สิ่งที่น่าจะกดดันค่าเงินยูโร ก็คือ การถูกลดอันดับเครดิตของ อิตาลี แต่ก็อาจจะกระทบซิ่งมายังค่าเงินUSD ของสหรัฐได้ จากประเด็นเรื่อง Sequester ที่ทางสถาบันจัดอันดับเครดิต ชั้นนำอาจจะใช้เป็นประเด็นกดดันต่อสหรัฐ หากทั้งสองพรรคยังไม่กลับมาหาแนวทางแก้ไข ปัญหาดังกล่าว

***สรุปคือ ผมมองว่าประเด็นหลักที่กดดันค่าเงิน USD ให้อ่อนค่าลงได้ และทำให้ ทองคำดีดสลับขึ้นไปได้ (ในระยะสั้น) ก็คือ เรื่องของ Sequester แต่หากว่าทั้งสองพรรคได้มีการกลับมาพูดคุย หาแนวทางตัดลดงบประมาณแบบ มีเหตุมีผลที่ลงตัว กันได้ โดยไม่ปล่อยให้มีการ ตัดลดงบประมาณคลังแบบ อัตโนมัติแบบที่เป็นอยู่าแบบนี้ ก็จะทำให้ ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอยู่ในทิศทางที่แข็งค่าขึ้นได้ในระยะกลางถึงยาว หรืออาจจะเรียกได้ว่า ดอลลาร์จะกลับมาเป็น Safe Haven ในสายตานักลงทุนใน(ระยะกลางถึงยาว) ตรงกันข้ามกับ ทองคำ ที่ก็จะกลับมาได้รับแรงกดดัน ในการถูกเทขายออกมา อีกครั้งนั้่นเอง

$Technical Analysis
*จะลง ก็ลงไม่ได้ เพราะเกิด Bull Di
-ราคาทองคำในระยะสั้น พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ลงลำบาก เพราะขนาด ตัวเลขใหญ่ ไซซ์บิ๊กอย่าง NFP และ UR ที่ออกมาเยี่ยมยุทธ ตุ๊ดชอบ ขนาดนั้น ยังกระทืบน้องทองไม่ไหว เลย...กลับโดนน้องทอง เด้งเชือกสวนกลับทันควัน ด้วยท่าไม้ตาย Bull Divergence
-แถมล่าสุดเช่านี้ราคาขึ้นมาจ่อแนวต้านสำคัญแถวเขต 1585-1587 อีกครั้ง แต่เมื่อผมดูจากสัญญาณ เทคนิคในระยะสั้น ก็ดูเหมือนแรงจะไม่ค่อยมีเท่าไหร่ อาจจะคงต้องใช้เวลาฟิตซ้อมอีกสักพัก หากหวังจะทะลักจุดต้านแถว 1585+/-นี้
-แต่ถ้าหากให้ นันให้น้ำหนัก ว่า....จะทะลุกรอบด้านบน หรือ ล่างมากกว่ากัน นันขอเน้น ทะลวงบน เพราะเป็นคน ชอบด้านบน มากกว่าด้านล่าง.....(ใครแอบ อมยิ้ม แปลว่า คิดทะลึ่ง)
***สรุป ในระยะสั้นยังให้น้ำหนัก ว่าราคาทองคำมีโอกาสที่จะทะลุกรอบบนแถว 1585-1587 ขึ้นไปก่อน เพื่อไปทำจุดจบของคลื่น C อาจจะเป็นแถวสเขต 1625-1630 แล้วถึงจะกลับตัวลงในลูกคลื่นลูกสุดท้าย ตามที่ได้เขียนบอกทู๊กๆๆๆ วันที่ผ่านนั่นแหละครับ

$Strategy

*วันนี้ หนำเสนอ กลยุทธ์ "รักหน้าไหน เล่นหน้านั้น" อาจารย์ทอมสอนนันมา
-คือหากชอบหน้า sell ก็ดูว่าแถวราคา 1585-1587 นี้ราคาทำท่าจะไม่ผ่านมั้ย ถ้าดูท่าไม่ผ่านก็เปิด sell ได้ โดยหวังเอากำไร สั้นๆ ไปปิดทำกำไรแถว 1580-1577 แต่หากราคาทะลุกรอบบนขึ้นไป ต้องรีบ stop loss นะครับ
-ส่วนคนรักหน้า buy ก็ให้รอดูว่า จะมีจังหวะเข้าเปิด Buy ในจังหวะที่ราคาย่อลงมาหรือไม่ หรือหากราคาทะลุกรอบบน ก็ต้อง กัดฟัน Follow buy บางๆ เพื่อหวังไปทำกำไรแถวเขต 1595-1600 ก่อนเบาๆ
 แนวโน้มราคาทองคำ12.03.13 "กลับตัวก็ไม่ได้ ให้ลงต่อไปก็ไปไม่ถึง"
$Fundamental & Event Analysis
<USA Head Line>
*1.ประเด็นSequester เป็นภาพใหญ่ ที่กดดันUSD ในระยะกลาง หากยังไม่มีการ กลับมาคุยกันใหม่ ของทั้งสองพรรค
*2.ตัวเลข Non Farm Payrolls /Unemployment Rate ออกมาดีมาก แต่ดันออกมาไม่ที่ถูกเวลา ผิดกาละเทศะ
-ประเด็นเรื่อง Sequester หรือการตัดงบประมาณการคลังแบบอัตโนมัติ นั้น ผมมองว่าเป็นประเด็นหลักที่ยังกดดันค่าเงินUSD และทำให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้าง จะเห็นได้จาก แม้กระทั่งตัวเลข Non Farm Payrolls /Unemployment Rate ที่ประกาศออกมาดีมาก แต่ว่าก็ไม่สามารถทำให้ ราคาทองคำหลุดต่ำกว่าแนวรับ สำคัญกรอบ 1565-1560 ลงไปได้ แต่ราคาทองคำก็ยังไม่สามารถที่จะดีด สลับขึ้นผ่านแนวต้าน สำคัญด้านบนแถวเขต 1585+/- ขึ้นไปได้ อยู่ดี อาการมประมาณว่า "กลับตัวก็ไม่ได้ ให้ลงต่อไป ก็ไปไม่ถึง" อย่างที่เห็นกันอยู่

<ยุโรป Head Line>
*Italy ถูกลดเครดิต จากประเด็นความไม่แน่นอน ในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่
-สิ่งที่น่าจะกดดันค่าเงินยูโร ก็คือ การถูกลดอันดับเครดิตของ อิตาลี แต่ก็อาจจะกระทบซิ่งมายังค่าเงินUSD ของสหรัฐได้ จากประเด็นเรื่อง Sequester ที่ทางสถาบันจัดอันดับเครดิต ชั้นนำอาจจะใช้เป็นประเด็นกดดันต่อสหรัฐ หากทั้งสองพรรคยังไม่กลับมาหาแนวทางแก้ไข ปัญหาดังกล่าว

***สรุปคือ ผมมองว่าประเด็นหลักที่กดดันค่าเงิน USD ให้อ่อนค่าลงได้ และทำให้ ทองคำดีดสลับขึ้นไปได้ (ในระยะสั้น) ก็คือ เรื่องของ Sequester แต่หากว่าทั้งสองพรรคได้มีการกลับมาพูดคุย หาแนวทางตัดลดงบประมาณแบบ มีเหตุมีผลที่ลงตัว กันได้ โดยไม่ปล่อยให้มีการ ตัดลดงบประมาณคลังแบบ อัตโนมัติแบบที่เป็นอยู่าแบบนี้ ก็จะทำให้ ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอยู่ในทิศทางที่แข็งค่าขึ้นได้ในระยะกลางถึงยาว หรืออาจจะเรียกได้ว่า ดอลลาร์จะกลับมาเป็น Safe Haven ในสายตานักลงทุนใน(ระยะกลางถึงยาว) ตรงกันข้ามกับ ทองคำ ที่ก็จะกลับมาได้รับแรงกดดัน ในการถูกเทขายออกมา อีกครั้งนั้่นเอง

$Technical Analysis
*จะลง ก็ลงไม่ได้ เพราะเกิด Bull Di
-ราคาทองคำในระยะสั้น พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ลงลำบาก เพราะขนาด ตัวเลขใหญ่ ไซซ์บิ๊กอย่าง NFP และ UR ที่ออกมาเยี่ยมยุทธ ตุ๊ดชอบ ขนาดนั้น ยังกระทืบน้องทองไม่ไหว เลย...กลับโดนน้องทอง เด้งเชือกสวนกลับทันควัน ด้วยท่าไม้ตาย Bull Divergence
-แถมล่าสุดเช่านี้ราคาขึ้นมาจ่อแนวต้านสำคัญแถวเขต 1585-1587 อีกครั้ง แต่เมื่อผมดูจากสัญญาณ เทคนิคในระยะสั้น ก็ดูเหมือนแรงจะไม่ค่อยมีเท่าไหร่ อาจจะคงต้องใช้เวลาฟิตซ้อมอีกสักพัก หากหวังจะทะลักจุดต้านแถว 1585+/-นี้
-แต่ถ้าหากให้ นันให้น้ำหนัก ว่า....จะทะลุกรอบด้านบน หรือ ล่างมากกว่ากัน นันขอเน้น ทะลวงบน เพราะเป็นคน ชอบด้านบน มากกว่าด้านล่าง.....(ใครแอบ อมยิ้ม แปลว่า คิดทะลึ่ง)
***สรุป ในระยะสั้นยังให้น้ำหนัก ว่าราคาทองคำมีโอกาสที่จะทะลุกรอบบนแถว 1585-1587 ขึ้นไปก่อน เพื่อไปทำจุดจบของคลื่น C อาจจะเป็นแถวสเขต 1625-1630 แล้วถึงจะกลับตัวลงในลูกคลื่นลูกสุดท้าย ตามที่ได้เขียนบอกทู๊กๆๆๆ วันที่ผ่านนั่นแหละครับ

$Strategy

*วันนี้ หนำเสนอ กลยุทธ์ "รักหน้าไหน เล่นหน้านั้น" อาจารย์ทอมสอนนันมา
-คือหากชอบหน้า sell ก็ดูว่าแถวราคา 1585-1587 นี้ราคาทำท่าจะไม่ผ่านมั้ย ถ้าดูท่าไม่ผ่านก็เปิด sell ได้ โดยหวังเอากำไร สั้นๆ ไปปิดทำกำไรแถว 1580-1577 แต่หากราคาทะลุกรอบบนขึ้นไป ต้องรีบ stop loss นะครับ
-ส่วนคนรักหน้า buy ก็ให้รอดูว่า จะมีจังหวะเข้าเปิด Buy ในจังหวะที่ราคาย่อลงมาหรือไม่ หรือหากราคาทะลุกรอบบน ก็ต้อง กัดฟัน Follow buy บางๆ เพื่อหวังไปทำกำไรแถวเขต 1595-1600 ก่อนเบาๆ
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น