$Fundamental & Event Analysis
*1) แบงค์ Cyprus เปิดทำการ วันนี้วันแรก หลังจากหยุดทำการมานาน ช่วงรอความชัดเจน เงินช่วยเหลือ
-ประเด็นไซปรัส สำหรับเรื่องข่าวถือว่า จบข่าวแล้วครับ เพราะได้รับเงินชวยเหลือแล้ว แต่ที่เหลือก็มารอดูผลกระทบจาก เงื่อนไข ของทางทรอยก้าตั้งไว้ให้ ไซปรัสเดินตาม ว่าจะกระทบสถานการณ์ ความสงบของประเทศแค่ไหน
-เท่าที่ ติดตามข่าวสาร ก็มีการออกมาประท้วงบ้าง จากผู็ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดตัวของแบงค์ Laiki ประกอบกับผลกระทบของ ผู้ที่มีเงินฝากมากกว่า 1 แสนเหรียญยูโร แต่เท่าที่ผมประเมิน ผมว่าผลกระทบจากการประท้วง ไม่น่าจะมีเหตุบานปลายครับ
-ส่วนการเปิดทำการของ แบงค์พาณิชย์ของไซปรัส วันแรกหลังช่วงวิกฤตินั้น จะมีการแห่ มาถอนเงินมากน้อยแค่ไหน? อันนี้ก็ต้องรอตามข่าวกัน ไอ้ถอนน่ะ มันมีถอนอยู่แล้วล่ะครับ แต่จะมากขนาดที่ ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ธนาคารหรือไม่ นั้น...ผมมองว่านาจะไม่นะครับ เพราะมาตรการการช่วยเหลือของ ทรอยก้าก็ชัดเจนว่า ไม่แตะบช.เงินฝากที่น้อยกว่า 1แสนเหรียญแล้ว ไม่เหมือนช่วงที่ ทรอยก้า เสนอเงื่อนไขมาให้ไซปรัสในครั้งแรก
***แต่ในระยะสั้น จากความไม่ชัดเจนเรื่องผลกระทบหลังมาตรการช่วยหรือจาก ทรอยก้าจะเป็ยยังไง ผมก็มองว่า น่าจะยังมีผลกระทบในเชิงลบกับ ค่าเงินยูโร และอาจจะมีแรงซื้อ ทองคำในฐานนะ Safe Haven อยู่บ้าง
*2) อีเวร...เอ้ย อีแว้นซ์ ประธานเฟดสาขา ชิคาโก้ ออกมาให้ สัมภาาษณ์ว่า เฟดยังคง มาตรการQE เดือนล่ะ 8.5หมื่นล้านดอลลลาร์ต่อไป ยังไม่มีการตัดสินใจลด หรือชะลอ มาตราการดังกล่าว อย่างแน่นอน
"Charles Evans, the president of the Chicago Federal Reserve Bank, and a leading architect of the Fed’s ultra-loose policy, counseled a go-slow approach to making any changes to the $85-billion-a-month per month purchases of Treasurys and mortgage-backed securities."
-อีแวนซ์ ออกมาพูด ทำนองเดียวกับ เบอร์นันเก้ เพื่อเป็นการตอกย้ำว่า มาตรการ QE ยังจะคงมีการดำเนินการต่อไป ตามแผนเดิม ยังไม่ได้มีการคิดหรือตัดสอนใจ ที่จะชะลอหรือลดเม็ดเงิน ในการทำQE โดยยังคงมีเป้าหมายหลักในเรื่อง การสร้างงานในตลาดแรงงานของสหรัฐ โดยตั้งเป้าอัตราการว่างที่ 6.5% นั่นเอง
***การที่มีการออกมาย้ำว่ามาตรการ QE ย้งคงดำเนินการต่อไป น่าจะมีผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐ มากกว่าที่จะมีการ ลดQE ลงในช่วงเวลาอย่างนี้ เพราะตอนนี้ มันยังคงพัวพันกับเรื่องการตัดลดประมาณการคลัง(Sequester) อยู่ด้วย ดังนั้นหากยกเลิกมาตรการQE ณตอนนี้ เศรษฐกิจสหรัฐก็จะยิ่งชะงักงัน นั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น