แนวโน้มตลาด วันที่ 8/1/2015 8:00 น.
สรุปภาพรวมเมื่อวานนี้
(ฝนตกแต่เช้า เค้าสรุปข่าวให้ฟัง)
รายงานการประชุม Fed ที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ บรรดาเจ้าหน้าที่ได้แสดงการสนับสนุนการประเมินของนางเจเน็ต เยลเลน ประธาน Fed เกี่ยวกับช่วงเวลาที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
โดยนางเยลเลนกล่าวในการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมในเดือนธ.ค.ว่า "ไม่มีแนวโน้มที่จะ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 2-3 ครั้งหน้าเป็นอย่างน้อย ก่อนปลายเดือนเมษายนปีนี้" โดยระบุเพิ่มเติมว่า “ช่วงเวลาในการเริ่มปรับเพิ่มเป้าหมายดอกเบี้ยระยะสั้น รวมทั้งทิศทางสำหรับเป้าหมายดังกล่าวหลังจากนั้น จะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ"
บรรดานักวิเคราะห์ได้ตีความการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวว่า “เป็นการก้าวไปอีกขั้นสู่การถอนตัวจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย" ขณะที่นักลงทุนคาดว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในกลางปีนี้ เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นเพราะได้รับปัจจัยบวกจากกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า ECB จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ครั้งใหม่ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตร หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนลดลงสู่ระดับ -0.2% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงตัวเลขเงินเฟ้อเดือนที่แล้วถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2009 และนับเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ CPI ยูโรโซนอยู่ในระดับติดลบ ส่งผลให้มีกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจจะตัดสินใจขยายขอบเขตมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมที่กำลังจะมีขึ้น
ทั้งนี้ตลาดยุโรปยังได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่า คณะรัฐบาลของนางแองเกลาร์ แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีจะเปิดช่องทางการเจรจากับรัฐบาลชุดใหม่ของกรีซ เพื่อผ่อนปรนภาระหนี้สิน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญญาณว่าคณะรัฐบาลของเยอรมนีมีท่าทีที่ผ่อนคลายลงต่อกรีซ
จากปัจจัยในยุโรปทั้งหมดทั้งมวล ยังเป็นปัจจัยที่ กดดันค่าเงิน EUR ให้อ่อนค่าลงต่อเนื่อง
ข้ามไปฝั่งสหรัฐ ที่ ADP(เป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานสหรัฐที่) ระบุในรายงานการจ้างงานแห่งชาติว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 241,000 รายในเดือนธ.ค.2014 สูงกว่าที่คาดการณ์ที่ระดับ 226,000 ราย
นอกจากนี้ ADP ยังได้ทบทวนปรับเพิ่ม (Revision) ตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ย.สู่ระดับ 227,000 ราย จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 208,000 ราย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.) สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงอย่างเหนือความคาดหมายในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
ขณะที่ราคาทองเคลื่อนไหวในกรอบเล็กๆ โดยไม่สามารถผ่านราคา 1222 USD/oz. ขึ้นไปได้ และไม่สามารถหลุด 1210 USD/oz. ภาพรวมย่อลงเล็กน้อยจากวันที่ 6/1/15 ทั้งนี้มาจากการที่ตลาดสหรัฐรับปัจจัยบวกจากที่มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้ ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐ (ภาคเอกชน)ที่แข็งแกร่งซึ่งช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐ และค่าเงิน USD พุ่งขึ้นด้วยนั้น แต่หากมองจากกราฟราคาทอง H1 ยังมีสัญญาณขึ้นอยู่ ยังคงปะมาทไม่ได้
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/groups/ilovegoldstreet
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น