MARKETs report 18/1/2015
กระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรครั้งใหม่ในการประชุมสัปดาห์หน้านี้ ส่งผลให้สกุลเงินยูโร เมื่อเทียบกัดอลล่าร์สหรัฐ (EURUSD)ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 11 ปี
กระแสคาดการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นจากการส่งสัญญาณของนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาว่า ECB อาจจะใช้มาตรการ QE ครั้งใหญ่ โดยนายดรากีกล่าวให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ของเยอรมนีว่า ECB ไม่สามารถมองข้ามความเสี่ยงจากภาวะเงินฝืดในยูโรโซน และยังกล่าวด้วยว่าความเสี่ยงที่ ECB จะไม่สามารถรักษาเสถียรภาพด้านราคาเอาไว้ได้นั้น มีสูงกว่าเมื่อ 6 เดือนก่อน ทำให้ ECB ต้องเตรียมพร้อมในการปรับวงเงินในมาตรการ QE ในช่วงต้นปี 2558 หากมีความจำเป็น
นอกจากนั้นตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ร่วงลง 0.4% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2551 และมาพร้อมกับปัจจัยบวก อย่างตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี
ขณะที่นักลงทุนยังคงมีปฏิกริยาต่อข่าวที่ว่า ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ SNB ตัดสินใจยกเลิกมาตรการควบคุมสกุลเงินฟรังก์ แม้ความสำคัญจะลดลงบ้างก็ตามแต่ ด้วยการยกเลิกเพดานการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนฟรังก์สวิสเมื่อเทียบกับยูโรที่ผ่านมาส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ทเนื่องจากการประกาศยกเลิกมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะควบคุมค่าเงินฟรังก์สวิสไม่ให้แข็งค่ามากเกินไปเมื่อเทียบกับยูโร รวมทั้งไม่ให้เศรษฐกิจของประเทศถดถอย และตกอยู่ในภาวะเงินฝืด
งานนี้ราคาทอง และเงิน USD บวกกันตามๆ จากสถานการณ์ที่กล่าวมา
สำหรับโฟกัสสัปดาห์หน้า คงเป็นเรื่องการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 22 ม.ค.นี้อย่างใกล้ชิด หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่าการประกาศยกเลิกเพดานการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินของธนาคารกลางสวิสนั้น อาจส่งผลให้อีซีบีตัดสินใจประกาศโครงการซื้อพันธบัตรในการประชุมครั้งนี้ ก็เป็นได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น