แนวโน้มราคาทองคำ 18.04.13 "แกว่งตัวพักฐาน ยังมีโอกาสลงได้ต่อ อย่าพึ่งเสี่ยงเล่นหน้า buy "

แนวโน้มราคาทองคำ 18.04.13 "แกว่งตัวพักฐาน ยังมีโอกาสลงได้ต่อ อย่าพึ่งเสี่ยงเล่นหน้า buy "

$Fundamental & Event Analysis 

* เฟดเปิดเผยมุมมอง ต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ เติบโตได้ในระดับปานกลาง 
-เมื่อคืนนี้ ทางเฟดได้เปิดเผยมุมมอง รายงานภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ บอกว่าภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐเติบโตได้ในระดับปานกลาง โดยดูได้sector บ้าน ,ก่อสร้าง,และรถยนต์ ที่เติบโตได้ดี
-อย่างไรก็๋ตาม ทางเฟดสาขาก็ยังยืนยันว่า จะยังคงดำเนินนโยบายอัดฉีดเงินต่อไป จนกว่าจะเห็นระดับการว่างงานลดลงสู่ระดับเป้าหมายที่วางไว้

*เศรษฐกิจจีนเติบโตน้อยกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ กดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งทองคำ ร่วงลงต่อเนื่อง
-จีนรายงานตัวเลข จีดีพี ไตรมาส1 ปี56 ออกมาเติบโตที่7.7% ลดลงจากไตรมาสที่4 ปีก่อนที่เติบโต 7.9% ที่สำคัญคือท่าทีของรัฐบาลชุดใหมของจีน ได้ส่งสัญญาณ ในเชิงที่ว่า จีนจะเน้นการเติบโตแบบยั่งยืน ไม่เน้นการเติบโตที่รวดเร็วเกินไป แปลเป็นไทยก็คือว่า เราไม่น่าจะได้เห็นตัวเลข จีดีพีของจีน เติบโตในระดับ ตัวเลขสองหลัก อีกในระยะ สองสามปีนี้ นั่นเอง

*ธนาคารกลางไซปรัสยอมรับแล้วว่า จะขายทองในสต็อคออกมา เพื่อเอาเงินมาหมุน
-ประเด็นที่ฉุดให้ทองคำ ร่วงลงมาแรงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นก็คือ ประเด็นที่ทาง มาริโอ ดรากี้ พูดว่า ไซปรัส รวมทั้งประเทศที่มีปัญหาทางด้านหนี้สิน อาจจะต้องมีการเทขายทองคำออกมา เพื่อนำเงินสดมาบริหารหนี้ ที่กู้จากธนาคารกลางยุโรป นั่นเอง
-เมื่อวานนี้ ทางธนาคารกลางไซปรัส ก็ได้ออกมายอมรับแล้วว่า จะขายทองคำจากสต็อคออกมาจริง แต่ยังไม่ได้มีการขายในตอนนี้ เพราะต้องรอการได้รับอนุมัติจากสภาก่อน
***ประเด็นตรงนี้ หากจะมองกันจริงๆ แล้ว การที่มีแรงเทขายทองคำออกมาแบบ Panic นั้น ประเด็นคงไม่ได้ มาจากการกลัวว่า ไซปรัส จะขายทองออกมา เพราะไซปรัสมีมูลค่าทองคำเพียง ราว13 ล้านตัน ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ หากเทียบกับมูลค่าทองคำในตลาดโลกทั้งหมด (ประเทศไทยมีทองคำในสต็อคของ ธปท. ราว 150 ล้านตัน) แต่สิ่งที่คน panic ก็เพราะว่า ประเทศที่มีปัญหาหนี้สินในยูโร มันยังมีประเทศที่มีมูลค่าทองคำในสต็อคมากๆ อย่างเช่น อิตาลี ที่มีมูลค่าทองคำในสต็อคมากที่สุดเป็นอันดับสาม ของโลก รวมทั้งอีกหลายๆประเทศ เช่น สเปน โปรตุเกศ ที่อาจจะต้องขายทองออกมา ต่างหาก ที่ทำให้ตลาดเกิดการตื่นตะหนก

***แม้ว่าตอนนี้ จะมีเสียงจากหลายๆ ธนาคารกลาง จะออกมาประสานเสียงว่า ราคาทองคำที่ตกลงมา จะเป็นจังหวะให้ธนาคารกลางเหล่านั้น เข้าช้อนซื้อ ก็ตาม แต่ผมมองอย่างนี้นะครับ เรื่องการซื้อหรือขายทองคำจริง (Physical gold) นั้นมันอาจจะไม่สามารถสะท้อนภาวะการซ์้อขาย เก็งกำไร ในตลาด Gold spot หรือ Gold future ในตลาดโลกได้จริง เพราะตลาดทั้งสองนี้ มันเป็นตลาดการเก็งกำไร ดังนั้น ในเร่ืองของ Sentiment ของตลาดจึงน่าจะมีความสำคัญ เช่นกัน ดังนั้น หากภาวะ Sentiment ตลาดยังคง มีความกังวลต่อกสารเทขายของ ธนาคารกลางของฝั่งยูโรโซน ผมว่า Sentiment ตรงนี้ น่าจะเป็น Major Trend ในการเทรดในช่วงนี้ ครับ ดังนั้นผมยังคงมองว่า ราคาทองคำยังมีความเสี่ยงทางขาลงอีกครับ

$Technical Analysis

*ระยะสั้นอาจจะยังมีโอกาส ดีดเด้งขึ้น สลับบ้าง เพื่อเป็นการพักฐาน Consolidateหลังจากราคาร่วงลงมาแรง สองวันกว่า 200 เหรียญ บอกชัดเจนไม่ได้ว่า จะดีดขึ้นได้เท่าไหร่ อาจจะเป็น แถว 1400+/- หรือ 1420+/- หรืออาจจะไม่ดีดแล้วก็ได้ ดังนั้นผมจึง อยากจะเน้นย้ำว่า เน้น่รอดักขาย ดีกว่า เล่นทางซื้อ เพื่อหวังลุ้นรีบาวน์สั้นๆ นะครับ เพราะหากเล่านทางซื้อ อาจจะได้ไม่คุ้มเสี่ยง ครับ

*เมื่อเช้าราคาร่วงลงเร็วไปแถว 1335+/- แล้วดีดสลับขึ้นมา ได้เร็วเช่นกัน น่าจะแปลว่า ราคาทองคำน่าจะยัง พักฐาน consolidate ยังไม่จบ ดังนั้นอาจจะเป็นไปได้ที่ราคาทองคำจะยัง side way ออกด้านข้าง อยู่ในกรอบ โดยมีแนวต้านระยะสั้นแถว 1390-1395 หากดีดขึ้นไม่ผ่านแถวเขตนี้ ก็อาจจะมีแรงเทขายสลับลงมาได้อีกครั้ง

$Strategy

*รอ หาจังหวะเปิด sell ที่กรอบแนวต้านต่างๆ ที่ให้ไว้ เป็นหลัก ไม่แนะนำเล่นทางด้าน ซื้อเพื่อเล่นรีบาวน์