วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สรุปก่อนเข้าตลาดทองคำ (ทำไม ? ราคาทองถึง“ร่วงหนัก”) 24/6/56 (เช้า)

ต้องถามกลับว่า ทำไมค่าเงิน “USD” ถึงพุ่งขึ้นมากมายขนาดนั้น และก็แน่นอนส่งให้ “ราคาทองคำ”รูดลงอย่างหนัก 
เราควรพิจารณาไปที่ 3 เส้า
1.คือ สหรัฐฯ
2.คือ ยูโรโซน และ
3.คือ ญี่ปุ่น
ถามว่ามีใครคิดว่า ECB หรือยูโรโซนจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายที่ผ่อนคลายอย่างมากปัจจุบันเป็น“เข้มงวด” เร็วๆนี้ แม้กระทั่งสถานการณ์ในกรีซขนาดนี้ก็ยังถือว่ายังคงมีความไม่แน่นอนอยู่ค่อนข้างมาก
และมีใครคิดว่า ญี่ปุ่นจะมีการ “ปรับเปลี่ยน” นโยบายที่ผ่อนคลายแบบสุดขั่วขนาดนี้บ้าง เผลอๆจะเพิ่มมาตรการผ่อนคลายอีกด้วยซ้ำ เพราะเป้าหมายอย่างหนึ่งของผู้นำญี่ปุ่นปัจจุบันคือ การกำหนด Inflation target ไว้ที่ 2.00%(อัตราเงินเฟ้อ) ซึ่งถามว่ามีใครคิดบ้างว่ามันจะประสบความสำเร็จหรือบรรลุเป้าหมายได้เร็วๆนี้
ก็คงมีเพียงทางด้านสหรัฐฯ (ซึ่งก็ยังไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถรับประกันได้) ซึ่งอาจจะเริ่มปรับนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายมากๆอย่างเช่น ลดขนาดของ QE ลง

*และเมื่อเป็นเช่นนี้ ระหว่างค่าเงิน USD ค่าเงิน EUR และค่าเงิน JPY ทายสิว่าค่าเงินไหนน่าจะแข็งค่าขึ้นมากกว่ากัน ตอนนี้ท่านคงตอบคำถามได้ด้วยตนเองได้แล้ว

**อีกเหตุผลหนึ่งคือ ในการประชุมครั้งนี้แทบจะไม่มีใครคาดคิดว่า เฟดจะลดขนาดของ QE ลงอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีการขายเงิน USD หรือ “USD on fact” แนวโน้มในการที่เฟดจะลดขนาดของ QE ลง ย่อมเป็นผลลบต่อดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งได้รับอนิสงฆ์ไปเต็มๆจากมาตรการของเฟดและส่งผลบวกต่อค่าเงิน USD ซึ่งแน่นอนย่อม “กดดันราคาทองคำ”
ช่วงหลังๆนี้ราคาทองคำวิ่งผกผันกับค่าเงิน USDJPY แต่ทำไมทองคำถึงรูดลงแรงมากมายเกินการขึ้นของค่าเงิน USDJPY ล่ะ ? เอ้า ก็เพราะมันดันหลุด Key chart support ลงมา บรรดา Bulls ก็ต้องหนีตายกันจ้าละหวั่นไงล่ะ แถวบริเวณ 1353/1352 ที่ได้มีการเขียนกำกับในบทความที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ว่า
“ถ้าหลุดลงมาจะมีอาการน่าเป็นห่วง” และบอกอีกว่า
“ถ้าราคาทองคำปรับลงอีกระลอกระดับแนวรับแถวบริเวณ 1365/1360 อาจรับไว้ไม่อยู่”
………………………………………………………
หมายเหตุ: บทความนี้ถูกจัดทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่เชื่อว่าหรือควรเชื่อว่ามี ความน่าเชื่อถือ และ / หรือมีความถูกต้อง อย่างไรก็ตามผู้จัดทำไม่รับรองความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลดังกล่าวข้อมูลและความเห็นที่ปรากฎข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผู้จัดทำไม่มีความประสงค์ที่จะชักจูงหรือชี้ชวนให้ผู้ลงทุนลงทุนซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ผู้จัดทำจึงไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการนำข้อมูลหรือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น