บทความแนวโน้มราคาทองคำ วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม 2556 (รอบบ่าย) ตอนที่ 1

สรุปภาพรวมของตลาดเมื่อวานนี้ 

เริ่มกับการรูดลงของค่าเงิน USD.JPY และ Nikkei หลังการพยายามการเข้าซื้อหุ้นและพันธบัตรญี่ปุ่นของต่างชาติซึ่งลดลงอย่างฮวบฮาบส่งผลบวกต่อราคาทองคำและเมื่อทองคำสามารถทะลุแนวต้านจิตวิทยาแถวบริเวณ 1400/1402 ก็ส่งให้ราคาทองคำทะยานขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับแนวต้าน 1410/1412 ก่อนที่จะพักตัวอยู่ในกรอบแคบๆเพื่อรอผลของตัวเลขต่างๆในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามการดีดตัวขึ้นอย่างกะทันหันและรวดเร็วของค่าเงิน USD.JPY ก็ส่งให้ราคาทองคำรูดลงพรวดพราดถึงแม้จะสามารถ Hold เหนือระดับแนวรับซึ่งผู้เขียนให้ไว้และเส้นความเคลื่อนไหวเฉลี่ย 21periods ในกราฟรายชั่วโมง โดยได้รับข่าวซึ่งก็ทำให้ผู้เขียนงงๆเนื่องจากในเวลาดังกล่าวผู้เขียนได้ลงไปที่ Top supermarket โดยแหล่งข่าวอ้างว่า USD.JPY jumps higher with UST 2s 10s spread บทสรุปออกมาว่า Spread between 10year U.S.Bonds and 10year tips show inflation expectation at 2.20% ซึ่งถือว่าต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม หลังจากนั้นทุกอย่างก็เริ่มสงบลงเพื่อรอผลของตัวเลขซึ่งผู้เขียนได้รายงานไปให้ทราบล่วงหน้าเมื่อวานถึงโอกาสและแนวโน้มของตัวเลขและผลของมัน ซึ่งก็ได้ออกมาอ่อนแอดังที่คงมีหลายท่านได้รายงานให้ท่านทราบแล้ว ผู้เขียนจึงขอไม่ขยายความต่อ เมื่อผลของตัวเลขเป็นเช่นนั้นก็แน่นอนกรรมก็ตกกับค่าเงิน USD โดยทองคำก็ได้รับอนิสงฆ์ไปพร้อมๆกับค่าเงินอื่นๆ Against USD และทองคำก็ได้ขึ้นไปถึงแนวต้านสุดท้ายซึ่งผู้เขียนให้ไว้ (1415/1418) โดยขึ้นไปสูงสุดราว 1417.85 ในขณะที่ค่าเงิน EUR.USD ก็ได้ทะยานทะลุแนวต้านบริเวณ 1.3000 อย่างแข็งแกร่งและปิดตัวได้สูงถึงสูงสุดจบข่าวครับ

สิ่งที่น่าสนใจและจับตาดูวันนี้

ยังคงคับคั่งคล้ายเมื่อวานแต่อาจจะดูเบาๆลงสำหรับในตลาดสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตามช่วงนี้เช้าๆมักมีทีเด็ดโผล่ออกมาเสมอๆ เช้านี้ก็เกิดขึ้นอีกโดยตัวเลข Business sentiment indication ประจำเดือน May ของจีนก็ได้ออกมาอ่อนแอลงอีก (56.7 vsfc 57.1 vsl 58.5) เดาซิว่าอะไรจะเกิดขึ้น ครับตามสูตรเดิมค่าเงิน USD.JPY รูดลง ราคาทองคำทะยานขึ้น อย่างนี้ผู้เขียนบอกไปแล้วหลายครั้งว่าช่วงสั้นๆนี้ราคาทองคำมักเคลื่อนไหวผกผันไปกับค่าเงิน USD.JPY ครับ ตามข่าวและปัจจัยดังกล่าว ส่วนตัวเลขที่น่าติดตามในสหรัฐฯตัวหลักก็คงเป็นตัวเลข Chicago PMI ครับ ซึ่งถูกคาดว่าจะดีขึ้นเพียงเล็กน้อยซึ่งหลายท่านถ้าดูหรือพิจารณาเผินๆก็จะคิดตัวเลขถูกคาดไว้ดีนี่ แต่จริงๆเนื่องจากเดือนก่อนหน้าแย่มากครับมาดูสถิติกันครับ (Apr 49.0 ,Mar 52.4 , Feb 56.8 ,Jan 55.6) สิ่งที่ตลาดหรือนักลงทุนเขาจะดูกันจะลึกลงไปในตัวเลขอีก คือ จะดูในส่วนของภาคการจ้างงานครับ (Employment component) ว่าจะเป็นอย่างไร อย่าลืมซิครับว่าเฟดโฟกัสไปที่ภาคการจ้างงาน