วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

บทความแนวโน้มราคาทอง วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2556

บทความแนวโน้มราคาทอง วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2556

สรุปภาพรวมของตลาดเมื่อวานนี้

ในช่วงตลาดยุโรปผลของตัวเลขทั้งเยอรมันและยูโรโซน SI (Service Index) ได้ออกมาแข็งแกร่งเกินการคาดการณ์ของตลาด ได้ส่งผลบวกต่อค่าเงินยูโร เป็นปัจจัยบวกเล็กๆ ต่อทองคำ ตบท้ายด้วยผลของตัวเลข Industrial & Manufacturing production ของอังกฤษ ซึ่งได้ออกมาแข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์ของตลาด ซึ่งก็ได้ส่งผลบวกเล็กๆต่อค่าเงินปอนด์ เข้าสู่ตลาดอเมริกาผลของตัวเลข PMI ของแคนาดาได้ออกมาแข็งแกร่งอย่างมโหฬาร (62.8 vsfc 52.0 vsl 51.9) ก็ส่งผลบวกต่อค่าเงินแคนาดา (USD.CAD ลง) ส่วนราคาน้ำมันดิบได้ดีดตัวขึ้นหลังรูดลงครบ 3 ชุดในวันที่ 5/11/13 ตามปัจจัยทางเทคนิคประกอบกับผลของตัวเลขสต๊อคน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด (1.577m vsfc 2.100m vsl 4.087m)

สิ่งที่น่าสนใจและจับตาดูวันนี้

ว่ากันแต่เช้าด้วยการประกาศตัวเลขการจ้างงานของออสเตรเลีย ซึ่งก็ได้ออกมาอ่อนแอพลิกความคาดหมายพอสมควรและก็ส่งผลให้มีแรงเทขายค่าเงินออสเตรเลียลงมา (AUD.USD) ซึ่งก็เป็นโอกาสทำกำไรได้เป็นอย่างดีสำหรับนักลงทุนที่ตื่นเช้าและมีความสนใจในการทุนในสกุลเงินหลักๆด้วย ส่วน Highlight ของตลาดยุโรปวันนี้คงหนีไม่พ้นผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และยูโรโซน (ECB) ในเวลา 19.00น.และ 19.45น.ตามลำดับ ซึ่งโดยรวมยังถูกคาดว่าทั้ง 2 ธนาคารกลางจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิมที่ 0.50% เหมือนกัน แต่ถ้าจะมีการพลิกล็อคก็อาจมาจากทางด้าน ECB มีการลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ซึ่งก็คงทำให้ค่าเงินยูโรรูดลงอย่างรวดเร็วสู่ระดับ 1.3450+/- ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็ยังต้องคอยดูคอยฟัง ECB’s Draghi อีกซึ่งถูกคาดกันว่าเขาจะออกมาแสดงท่าทีที่ผ่อนคลายลงมากกว่าการประชุมครั้งที่แล้ว ส่วนในตลาดอเมริกา Highlight จะอยู่ที่การประกาศตัวเลข GDP adv (3q) ซึ่งถูกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.0% (ไม่ดีหรือเลว กำลังพอดี) พร้อมกับตัวเลข US. Jobless claims ซึ่งครั้งที่แล้วทางแผนกแรงงานสหรัฐฯ ได้ออกมาชี้แจ้งว่าปัญหาทางคอมพิวเตอร์ที่รัฐ California ได้รับการคลี่คลายแล้ว ก็แสดงว่าได้เข้าสู่ภาวะปรกติแล้ว และครั้งนี้ถูกคาดว่าจะดีขึ้นเล็กน้อยครับ (335k vsl 340k) ก็คงน่าสนใจไม่น้อยโดยเฉพาะเมื่อจะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานใหญ่ของสหรัฐฯในคืนพรุ่งนี้ ซึ่งถูกคาดว่าจะอ่อนแอค่อนข้างมาก ซึ่งผู้เขียนจะมาเจาะลึกให้ทราบพร้อมทั้งกลยุทธ์ในการรลงทุนซื้อขายกันอย่างค่อนข้างละเอียดเป็นประจำทุกเดือน 

แนวโน้มและกลยุทธ์ประจำวันนี้

เมื่อวานราคาทองคำได้ปิดสูงตามโพยของภาพทางเทคนิค ซึ่งผู้เขียนได้ให้ข้อสังเกตุไปแล้วและยังคงอยู่ในกรอบแนวรับแนวต้านเดิม โดยมีกรอบใหญ่ 1300 ถึง 1330 กรอบเล็ก 1305 ถึง 1328 ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมากที่ราคาทองคำจะหลุดจากกรอบดังกล่าวนี้อย่างช้าไม่เกินวันพรุ่งนี้ (หมายความว่ามีสิทธิ์ที่จะหลุดวันนี้ด้วยเหรอ ตอบว่า ประมาทไม่ได้ โดยเฉพาะถ้าผลของตัวเลขออกมา Weak หมด เนื่องจากตัวเลขวันพรุ่งนี้ถูกคาดไว้ไม่ค่อยสู้ดี แต่อย่างไรก็ตามอะไรก็พลิกล็อคกันได้และสาเหตุที่คราวนี้ถูกคาดไว้ค่อนข้างแย่ก็อาจเป็นเพราะในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมาบรรดานักเศรษฐศาสตร์จากแทบทุกค่ายคาดการณ์ตัวเลขผิดหมดโดยได้ออกมาอ่อนแอกว่าคาดทั้ง 3 ครั้ง คราวนี้เลยขอเปลี่ยนเป็นอ่อนแอไว้ล่วงหน้าเลย ก็คอยดูกัน ถ้าทะลึ่งออกมาแข็งแกร่งกว่าคาดค่อนข้างเยอะล่ะก็อาจมีการไล่ออกกันบ้าลล่ะ ดูจากภาพทางเทคนิคสั้นๆจะเห็นได้ว่า เส้นความเคลื่อนไหวเฉลี่ยทั้ง 3 เส้นเริ่มกระจุกเข้าหากันแล้ว (21 , 50 และ100) บ่งชี้ว่าการ Breakout out กำลังจะมาอีกรอบ ปัญหาก็คือ ถ้าเป็นการ Breakout out ด้านบน ดูเส้นความเคลื่อนไหวเฉลี่ย 200periods จะอยู่ห่างไกลไปหน่อย และปัจจุบันนี้ราคาทองคำก็ฝนอยู่ในกรอบแคบๆเหนือเส้นความเคลื่อนไหวเฉลี่ย 50periods ในกราฟรายชั่วโมงอยู่ Sentiment วันนี้ถือว่า Neutral ครับ กลยุทธ์วันนี้คือ การเข้าลงทุนซื้อขายสั้นๆตามผลของตัวเลข โดยระวังความเสี่ยงของผลการประชุม ECB และ ECB’s Draghi press conference ด้วย ถ้าออกมาไม่ดีจะไปเพิ่มกระแสจากการคาดการณ์ของผลตัวเลขวันพรุ่งนี้ แต่ถ้าออกมาดีจะทำให้ขัดแย้งกันเกิดความ Mixed ส่วนผู้เขียนก็คงรอผลจของตัวเลขก่อนและคงเข้าซื้อขายสั้นๆเช่นกันครับถ้าผลออกมาพลิกพอสมควรไม่งั้นอาจรอโกยกำไรพรุ่งนี้ดีกว่า ขอให้ผู้อ่านและนักลงทุนทุกท่านโชคดีครับ          

แนวรับ-แนวต้านทองคำวันที่ 7/11/56 updated at 17.15น.
R2=1328/1330
R1=1320/1322*
S1=1315/1314
S2=1310/1305
………………..

หมายเหตุ: บทความนี้ถูกจัดทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่เชื่อว่าหรือควรเชื่อว่ามี ความน่าเชื่อถือ และ / หรือมีความถูกต้อง อย่างไรก็ตามผู้จัดทำไม่รับรองความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลดังกล่าวข้อมูลและความเห็นที่ปรากฎข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผู้จัดทำไม่มีความประสงค์ที่จะชักจูงหรือชี้ชวนให้ผู้ลงทุนลงทุนซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ผู้จัดทำจึงไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการนำข้อมูลหรือความเห็นของบทความนี้ไปใช้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบในการตัดสินใจลงทุน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น