บทความแนวโน้มราคาทอง วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 2556 (Midnight)
สิ่งที่น่าสนใจและจับตาดูเป็นพิเศษสัปดาห์นี้
เริ่มกันตั้งแต่
วันจันทร์ ด้วยการประกาศตัวเลข PMI + SI ( Adv ) ของทั้งเยอรมนีและยูโรโซนโดยรวม ต่อที่ตลาดอเมริกา ด้วยการประกาศตัวเลข NY Fed Manuf Ind และ Non – Farm Productivity F (3Q) ตอน 20.30 น. จบด้วยตัวเลข U.S. Industrail Production ตอน 21.15 น. ซึ่งทั้งหมดถูกคาดว่าจะดีขึ้นพอสมควรเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
วันอังคาร เริ่มกันที่ตลาดยุโรปด้วยการประกาศตัวเลข CPI ของอังกฤษ ตอน 16.30 น. ตัวเลข ZEW (สำรวจบรรยากาศทางเศรษฐกิจ) ของทั้งเยอรมนีและยูโรโซนโดยรวม ตอน 17.00 น. ในตลาดอเมริกาน่าสนใจด้วยการประกาศตัวเลข CPI ( Consumer Price Index ) ตอน 20.30น. ซึ่งอาจมีอิทธิพลต่อผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)
วันพุธ เริ่มกันที่ตลาดยุโรป ด้วยการประกาศตัวเลขเยอรมนี IFO (สำรวจบรรยากาศทางธุรกิจ) ซึ่งถูกคาดว่าจะดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ตอน 16.00 น. ซึ่งคงมีผลโดยตรงต่อค่าเงินยูโร ต่อด้วยตัวเลขการจ้างงานของอังกฤษ ตอน 16.30 น. ซึ่งน่าสนใจพอสมควร และคงมีผลโดยตรงต่อค่าเงินปอนด์ ในตลาดอเมริกา อุ่นเครื่องกันด้วยตัวเลข Housing Start และ Building Permits ตอน 20.30 น.ตบท้ายด้วยผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ตอน 02.00 น. ซึ่งถือว่าเป็น Major Focus ของสัปดาห์นี้ และเผลอๆของเดือนนี้เลย โดยล่าสุดยังถือว่าโอกาสที่เฟดจะตัดสินใจปรับลดขนาดของ QE ลงยังคง 50 : 50
วันพฤหัส เริ่มกันในตลาดยุโรปด้วยการประกาศตัวเลขยอดขายปลีกของอังกฤษ ตอน 16.30 น. ต่อด้วยตลาดอเมริกาด้วยการประกาศตัวเลข Phil Fed Manuf Ind และ Existing Home Sales ตอน 22.00 น.
วันศุกร์ เริ่มกันแต่เช้าด้วยผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น ( BOJ ) ตอน 8.30 น. ต่อที่ตลาดยุโรปด้วยตัวเลขเยอรมัน GfK ( สำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภค ) ตอน 14.00 น. GDP F (3Q) ของอังกฤษ ตอน 16.30 น. และตลาดอเมริกาคือตัวเลข GDP ประจำไตรมาสที่ 3 ( Final ) ตอน 20.30 น พร้อมกับตัวเลข CPI ของแคนาดา ตบท้ายด้วยตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซน ( Adv ) ตอน 22.
สิ่งที่น่าสนใจและจับตาดูวันนี้
โดยผ่านไปแล้วสำหรับตัวเลข PMI + SI ( Adv ) ของทั้งเยอรมนีและยูโรโซนโดยรวม ซึ่งถือว่าค่อนข้าง Mixed โดย PMI แข็งแกร่งเกินคาด แต่ SI กลับออกมาอ่อนแอกว่าคาด แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ค่าเงินยูโร ทะยานขึ้นอีกระลอก ส่วนในตลาดอเมริกา ตัวเลขโดยรวมถูกคาดว่าจะค่อนข้างดี
แนวโน้มและกลยุทธ์ประจำวันนี้
หลังการดีดตัวขึ้นเมื่อคืนของสัญญาณภาพ Bullish Divergence ทั้งใน RSI, Stochastics และ MACD ทองคำยังคงพบแนวต้าน ใต้แนวต้านบริเวณ 1238/1240 และวันนี้ตลาดก็ได้เทขายทองคำลงมาอีกระลอก ทั้งจากปัจจัยทางเทคนิค และการคาดการณ์ของตัวเลขที่ค่อนข้างดีของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามภาพรวมต้องไม่ลืมว่าราคาทองคำได้ลงมาถึง 4 ชุดแล้ว และต้องยอมรับว่าบริเวณ 1220/1200 ถือว่าเป็น Low Zone การดีดตัวขึ้นของราคาทองคำจากบริเวณ 1210 +- เป็นสักขีพยานได้ดี เพราะในการที่เฟดจะตัดสินใจลดขนาดชอง QE ลงในการประชุมพุธนี้ ผู้เขียนย้ำว่า 50:50 ( ทำไม ) อย่าลืมว่า ในการประชุมครั้งนี้ Ben Bernanke (ขุนช้าง) ยังอยู่ร่วมในฐานะประธานเฟด ( Chair man ) และว่าที่ประธานเฟดคนใหม่ ( Yellen ) ก็ไม่ต่างอะไรกับขุนช้าง คือ ยิว ผู้เขียนจึงเชื่อว่าจากผลของตัวเลขที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ที่ผ่านมา เฟดควรปรับลดขนาด QE ลง แต่ด้วยผู้ทรงอิทธิพลชาวยิว ยังคงต้องการคง QE แต่ปีหน้ายิวที่ฮิตเลอร์ ต้องการฆ่าให้สูญพันธุ์ จะเหลือแค่คนเดียว โอกาสลด QE จึงอาจมีมากขึ้นหน่อย แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ก้เสียความน่าเชื่อถือไปแล้ว สหรัฐฯจะเผชิญความเสี่ยงอย่างสูงในปีหน้า และผู้เขียนจะค่อยๆอธิบายความอย่างละเอียดต่อไป และจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อโลกด้วย ( สังคมเสื่อมลงทุกวัน เพราะเราใกล้วันสิ้นโลกเข้ามาทุกขณะ)
*Sentiment วันนี้ถือว่า Very Slightly Bearish To Neutral กลยุทธ์วันนี้ สำหรับนักลงทุนที่ไม่ได้ขายลงมาตั้งแต่ต้นวันอาจต้องรอผลของตัวเลขเลย เนื่องจากราคาทองคำได้ดีดตัวขึ้นมาแล้วจากสัญญาณภาพทางเทคนิคแบบธรรมดาๆมากๆ ผู้เขียนเลยบอกไปไม่รุ้กี่ครั้งแล้ว Stochastics ก็ Over Sold, RSI ก็ Over Sold, MACD ด้านล่างก็เล็กมาก เผลอๆอาจต้องตีตั๋วดูไปเลยวันนี้ รอ Major Focus ของสัปดาห์นี้และเผลอๆของเดือนกันไปเลย ซึ่งผุ้เขียนจะมาเจาะลึกให้ทราบอีกครั้ง ส่วนผุ้เขียนเชื่อว่าราคาทองคำจะยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway รอผลการประชุมเฟด แต่เอียงทางด้านเข้าซื้อมากกว่าเข้าขายครับ ยังไงจะมาบอกกลยุทธ์กันอีกครั้งวันพุธ เตรียมรับทรัพย์กันด้วยเพื่อนำไปฉลองสิ้นปีครับ ขอให้ผุ้อ่านและนักลงทุนทุกท่านโชคดีครับ
แนวรับ-แนวต้าน ทองวันที่ 16/12/56 updated at 20.08 น.
R2=1243
R1=1238/1246
S1=1232
S2=1228/1220
.............
หมายเหตุ: บทความนี้ถูกจัดทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่เชื่อว่าหรือควรเชื่อว่ามี ความน่าเชื่อถือ และ / หรือมี ความถูกต้อง อย่างไรก็ตามผู้จัดทำไม่รับรองความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลดังกล่าวข้อมูลและความเห็นที่ปรากฎข้างต้น อาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผู้จัดทำไม่มีความประสงค์ที่จะชักจูงหรือชี้ชวนให้ผู้ลงทุนลงทุนซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ผู้จัดทำจึงไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการนำ ข้อมูลหรือความเห็นของบทความนี้ไปใช้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบ ในการตัดสินใจลงทุน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น