วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Gold Brife News วันที่ 10/12/56 (รอบเช้า)

Gold Brife News วันที่ 10/12/56 (รอบเช้า)

โฟกัสที่น่าสนใจวันที่ 10/12/56 

เริ่มกันเบาเบาอีกด้วยตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของญี่ปุ่นเวลา 12.00น. ต่อด้วยตัวเลข Industrial production และ Retail sales ของจีนเวลา 12.30น. ต่อที่ตลาดยุโรปด้วยการประกาศตัวเลข Industrial และ Manuf production ของอังกฤษพร้อมด้วยยอดดุลการค้า ในเวลาเดียวกันคือ 16.30น. ในตลาดอเมริกายังคงไม่มีการประกาศตัวเลขสำคัญอะไรครับ

อย่างไรก็ตาม Major focus ของตลาดน่าจะมุ่งไปที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในสัปดาห์หน้ามากกว่า (17/18.12.13) ซึ่งโอกาสล่าสุดที่เฟดอาจจะมีการตัดสินใจปรับลดขนาดของ QE ยังคงประมาณ 50:50 ครับ ถึงแม้ผลของตัวเลขต่างๆของสหรัฐฯในช่วงหลังๆนี้ล้วนออกมาแข็งแกร่งค่อนข้างมากถึงมากเลยทีเดียว และตามความเป็นจริงโดยปรกติ Fed ควรจะมีการปรับลดขนาดของ QE ลงตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมาแล้ว แต่ที่ยังดื้อ(ด้าน)อยู่

แนวโน้มราคาทองวันที่ 10/12/56 (รอบเช้า)

ประเดน Fundamental 

ค่าเงิน USD ปรับตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) แต่ยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเงิน JPY เนื่องจากนักลงทุนต้องการสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง (เหตุผลที่ดูง่ายๆ)

โดยในช่วงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัว และนักวิเคราะห์จำนวนมากเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะเริ่มชะลอการซื้อพันธบัตรภายในเดือนมี.ค.2557 โดย Fed มีกำหนดประชุมกำหนดนโยบายครั้งต่อไปในวันที่ 17-18 ธ.ค.

ขณะที่เจ้าหน้าที่ Fed หลายคนได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับการลดขนาดการซื้อพันธบัตรของ Fed
เริ่มตั้งแต่ นายเจฟฟรีย์ แล็คเกอร์ ประธาน Fed สาขาริชมอนด์ กล่าววานนี้ว่า เขาคาดว่าเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของ Fed จะหารือประเด็นการปรับลดขนาดการซื้อสินทรัพย์วงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน 

ขณะที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ก็กล่าวว่า การดำเนินการที่ดีที่สุดอาจจะเป็นการ"ลดสัดส่วนการซื้อพันธบัตรลงในเดือนธ.ค." 

*ข่าวเกี่ยวกับการ"ลด"ขนาดการซื้อพันธบัตรยังคงเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองอยู่เสมอ แต่ราคาทองกลับปรับตัวย่อลงเพียงเล็กน้อยมากๆ (ย่อลงมาประมาณ $3 +/-) และส่วนมากจะปรับตัวขึ้นมากกว่า แน่นอนเหตุผลหลักๆส่วนหนึ่งก็คือ การที่ทองได้ร่วงแตะระดับต่ำเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ควรเป็นสัญาณเข้าซื้อสำหรับนักลงทุนที่เห็นว่าราคาทองเริ่มลงมาบริเวณใกล้จุดที่อ้างว่าเป็นต้นทุนในการทำเหมืองทอง และที่เคยได้เคยเขียนหรือบอกไปหลายครั้งแล้วว่านี่มันเป็นเกมส์ของ Fed ทั้งหมดทั้งมวลจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาทองขยับขึ้นมากกว่า

ประเดนทางเทคนิค

เมื่อคืนราคาทองปรับขึ้นผ่านแนวต้านแรกเมื่อวานนี้ที่ 1234 ได้ (หากจะว่ากันด้านเทคนิค จุดนี้เป็นการผ่านแนวต้านสำคัญของทองจุดแรกเท่านั้น) โดยทำราคาสูงสุดเมื่อวานแถวบริเวณ 1243 

แต่หากสังเกตุภาพรวมด้านเทคนิคของราคาทองทั้งหมด ว่าได้ดังนี้
1. ราคาสูงสุดยัง"ต่ำกว่า"ราคาสูงสุดของสัปดาห์ที่ผ่านมา
2. ราคาต่ำสุดของราคาทองคำ ยังคง"สูงกว่า"ราคาต่ำสุดของสัปดาห์ที่ผ่านมา
หากยังเป็นแบบนี้อีกต่อไป หมายถึงกรอบของราคาทองคำเริ่มค่อย แคบลงๆเรื่อยๆ แบบนี้จะเป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่าราคาทองกำลังรอข่าสำคัญใน Week หน้า วันที่ 17-18 ธค. นั่นแหละครับ (แต่ไม่ใช่ไม่สามารถซื้อขายได้นะ เดี๋ยวว่ากันถึงกลยุทธอีกทีครับ)

ขณะที่กำลังร่ายข้อความในบทความ (10:30 น.) ราคาทองก็ดูคล้ายๆจะปรับตัวขึ้นผ่าน 1243 แล้ว จึงอาจทำให้ทฤษฎีที่กล่าวมาอาจใช้ไม่ได้ (บอกก่อนนะว่าให้ "สังเกตุ")

การอาศัยบรรดา indicator ทั้งหลาย โดยเฉพาะ Stoch อาจเป็นตัวช่วยบอกจังหวะซื้อขายที่ดีอีกสัญญาณ ซึ่งขณะนี้ พี่เขาบอกว่าเป็นสัญญาณ Over Bough หมายถึงเริ่มจะมีสัญญาณ ขายออกมาบ้างแล้ว พร้อมๆกับ Pattern ราคาทองจากภาพกราฟรายชั่วโมง ดูเลาๆเป็นภาพ Double Top เล็กๆ (ส่งสัญญาณย่อลงอีกแล้ว) แต่ขัดแย้งกับภาพกราฟค่าเงิน USDCHF หรือ ค่าเงิน USD Index ซึ่งกลับอ่อนค่าลงต่อเนื่อง 

ประเดนทางเทคนิคสำคัญจึงอยู่ที่ 
1. หากราคาทองผ่าน แนวต้านที่ 1243/1245 ขึ้นไปได้ โอ้เย้ ! อาจมีเป้าหมายไม่เกิน 1247/1250+/- ครับ 
2. แต่หากย่อลงมาทดสอบที่ราคา 1236/1237 แล้วหลุดลงไปได้เป้าหมายคงยังไม่ผ่าน 1232/1230 ลงไปได้ง่ายๆครับ

****การซื้อ และขาย ตามจังหวะทางเทคนิคด้วยกลยุทธ "ตีหัวเข้าบ้าน" ในช่วงสัปดาห์นี้ดูเหมาะกว่าครับ แล้วดูจากอะไร ข้อนี้หากใครไม่ทราบ ทางห้างทองกิมเฮง9999 เราก็มีจัดอบรมด้านเทคนิคแบบง่ายๆ โทรมาสอบถามวันอบรมที่ 02-168-3259 ต่อ 106, 109, 110 ได้เลยครับ

แนวรับ-แนวต้าน วันที่ 10/12/56 (รอบเช้า 10:45 น.) 
R3=1247
R2=1245
R1=1243
S1=1237
S2=1235
S3=1231/1230

................
หมายเหตุ: บทความนี้ถูกจัดทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่เชื่อว่าหรือควรเชื่อว่ามี ความน่าเชื่อถือ และ/หรือมีความถูกต้อง อย่างไรก็ตามผู้จัดทำไม่รับรองความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลดังกล่าวข้อมูลและความ เห็นที่ปรากฎข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผู้จัดทำไม่มีความประสงค์ที่จะชักจูงหรือชี้ชวนให้ผู้ลงทุนลงทุนซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ผู้จัดทำจึงไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการนำข้อมูลหรือความเห็นของบทความนี้ไปใช้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบในการตัดสินใจลงทุน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น