วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556

บทความแนวโน้มราคาทอง วันที่ 23/12/56 (รอบเช้า)

บทความโน้มราคาทองวันที่ 23 ธันวาคม 2556 (รอบเช้า)


สรุปภาพรวม Week ที่ผ่านมา


ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่า ผลจากการลดขนาด QE ของสหรัฐฯ มีผลตลอดทั้ง Week ที่แล้ว โดยก่อนทาง “ลุงเบน” บุรุษเครางาม(Ben Bernanke ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ) หรือขุนช้าง จอมแผนการ จะออกมาแถลงนั้น ทางทีมงานก็มีการวิเคราะห์ถึงเหตุผลที่จะ ลด หรือ ไม่ลด QE แม้น้ำหนักทั้ง 2 เหตุผลดูจะเท่ากัน แต่ก็อดเอ๊ะใจถึงแผนการของท่านขุนช้างนี่ไม่ได้ จึงได้ให้ % ไว้ที่ 50:50 แต่ขณะเดียวกัน จากสถิติการแถลงการณ์ของแกในวันที่มีการตัดสินใจเรื่องใดๆ ที่สำคัญ พอสรุปได้ว่า “ขุนช้างหรือลุงเบน” นี้แกชอบ “พลิกล็อก”


หากย้อนไปถึง Week แรกของเดือน กระแสการลด QE มีตลอดมา แต่พอเข้า Week ที่จะมีแถลงฯ กลับมีการเปลี่ยนแนวคิดว่า Fed น่าจะยังไม่ลด QE จนสุดท้ายก็ได้ผลสรุปอย่างที่ทุกท่านทราบ หักมุมจนหยดสุดท้ายจริงๆพ่อคนนี้


แน่นอนข้อมูลนี้ส่งผลต่อราคาทองเต็มๆ แม้จะไม่โดยตรงก็ตาม เนื่องจากปัจจัยเรื่อง QE นี้ เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อ Product ทุนทั่วโลก ตั้งแต่ ส่งผลบวกกัยค่าเงิน USD และ ตลาดหุ้นสหรัฐฯอย่าง Dow Jones ทองจึงไม่ลังเลที่จะถูกเทขายในฐานะ “บทบาทลูกภรรยาน้อย” เข้าสูตรที่ว่า “นักลงทุน มักจะวิ่งหา Product ทุนที่มีข่าวดีกว่าเสมอ”


โฟกัส Week นี้


Wow wow wow แม้จะมีรายงานตัวเลขบ้าง แต่ก็คงไม่พ้นเรื่องของ เทศกาลคริสมาส ซึ่งทำให้ตลาดหลายๆภูมิภาคปิด รวมถึงตลาดใหญ่อย่าง ตลาดในสหรัฐฯ โฟกัสไปอยู่ที่ผลประกอบการของหุ้นมากกว่า ทองอาจจะเคลื่อนไหวในกรอบราคาที่ไม่หวือหวามากนัก โดยปัจจัยที่น่าสนใจจริงๆ ได้แก่ รายงานตัวเลขรายรับ รายจ่ายส่วนบุคคล และตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค ของสหรัฐฯ ภาพรวมมีการคาดไว้ว่า จะปรับดีขึ้นเล็กน้อย วันอังคารเบาๆด้วยยอดสินค้าคงทน และยอดการสร้างบ้านใหม่ ของสหรัฐฯ โดยภาพรวมมีการคาดไว้ว่า จะปรับดีขึ้น เช่นกันผลกับราคาทองคงไม่มากนัก วันพุธคริสมาส เดย๋ วันพฤหัสฯ บางที่หยุดแต่สหรัฐฯเปิด รับตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการผู้ว่างงานประจำ Week ของสหรัฐฯ วันศุกร์จะมีบ้างเล็กน้อย แต่เนตัวเลขของญี่ปุ่น โดยส่วนมากส่งผลต่อตลาดในญี่ปุ่นมากกว่าช่วงนี้ ส่วนตัวเลขฝั่งสหรัฐฯก็จบเลย แทบไม่มีอะไรส่งผลกับราคาทองคำเลย จะมีก็เพียงตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลต่อราคาน้ำมันมากกว่า


แนวรับ-แนวต้าน ราคาทอง วันที่ 23/12/2556

R3=1224

R2=1219*

R1=1206

S1=1197

S2=1187*

S3=1180


แนวโน้มและกลยุทธ์ ราคาทอง วันที่ 23/12/255


ปฎิเสธไม่ได้เช่นกันว่า ราคาทองคำในประเทศ ยังมีปัจจัยที่ส่งผลกับราคาทองอีกเช่น อัตราและเปลี่ยน USDTHB รวมถึง Demand Supply โดยเฉลี่ย จึงทำให้กรอบการเคลื่อนไหวของราคามีไม่มากนัก


แต่หากเอากราฟเทคนิคมาดูกันจะได้กลยุทธ์ง่ายๆ แบบนี้


Plan 1. หากราคาทองสามารถขึ้นไปทดสอบที่ราคา 1206 ได้อย่างสง่าผ่าเผย โดยมีสัญญาณจาก Indicator ในลักษณะ OverSold หมายถึงราคาส่งสัญญาณซื้อมาชัดๆ โดยมีเป้าหมายการปิดกำไรที่ 1219 หรือหากผ่าน 1219 ขึ้นไปได้อีก  ให้มองจุดปิดกำไรที่แนวต้านถัดไปจากแนวรับ แนวต้าน ที่ให้ไว้


Plan 2. หากราคาหลุด 1197 ลงมาได้ (บริเวรเส้นแนวโน้มค่าเฉลี่ยที่ 21 ในกราฟ H1) โดยมีสัญญาณจาก Indicator ในลักษณะ OverBought เป้าหมายการปิดกำไรที่ 1187 เป็นจุดที่ปลอดภัยในเบื้องต้น แต่หากราคายังสามารถหลุดผ่านลงมาได้อีก อาจใช้ กลยุทธ์”สู้ครึ่งถอยครึ่ง” ได้


แต่หากมองภาพทางเทคนิค โอกาสที่ราคาทองเปิดตลาดมาจะย่อมาใกล้ๆบริเวณราคาที่ 1197 ยังมีอยู่ โดยให้น้ำหนักเพีง 55% ที่เหลือมองตาม Plan หรือ Plan 2 ก่อนดีกว่า


ขณะที่ภาพด้านล่างนี้ คือภาพกราฟทองราย 4 ชม. กลับบ่งชี้ถึงสัญญาณ ซื้อ โดยมี เป้าหมายอยู่ที่ 1213 USD/Oz จุดเก็บกำไร

สำหรับนักลงทุนหรือซื้อขายทองเพื่อเก็งกำไรระยะยาว อนาคตการขึ้นไปจากภาพด้านล่าง ภาพกราฟราคาทองราย Weekly (ไกลมากๆหน่อย) ขณะที่กราฟทองคำ "รายวัน" (Daily) ก็ยังมีสัญญาณชี้ขึ้นเช่นกันเพียงแต่ไม่สูงเท่าของกราฟ Weekly ที่แถวๆบริเวณ 1240 เลย แต่ทั้งคู่ชี้ให้เห็นแนวโน้มราคาระยะยาทั้งคู่ ยังมีสัญญาณบวกกับราคาทองทั้งจากภาพ Weekly แลอีกยาวไกล

**อย่างที่เรียนให้ทราบช่วงต้นว่า ตลาด Week นี้อาจจะเบาบาง ฉะนั้น 2 วันนี้ (หมายถึง วันจันทร์ที่ 23 และ วันอังคารที่ 24 ธันวาคม อาจมีแรงซื้อขายเฮือกสุดท้าย ก่อนจะเบาบางในช่วงปลายสัปดาห์เพราะวันหยุดคริสมาส


เพราะนี่ คือการลงทุน หรือซื้อขายทองเพื่อเก็งกำไร การวางแผน มีกลยุทธ์จึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ใช่การเล่นพนัน เมื่อปัจจัยส่งผลให้เป็นไปได้ ทั้ง 2 ทาง ก็ต้องว่าตามนั้น


โชคดีทุกท่าน  สุขสันต์วันคริสมาส โฮ่ๆๆ

.............

หมายเหตุ: บทความนี้ถูกจัดทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่เชื่อว่าหรือควรเชื่อว่ามี ความน่าเชื่อถือ และ / หรือมีความถูกต้อง อย่างไรก็ตามผู้จัดทำไม่รับรองความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลดังกล่าวข้อมูลและความเห็นที่ปรากฎข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผู้จัดทำจึงไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการนำข้อมูลหรือความเห็นของบทความนี้ไปใช้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบในการตัดสินใจลงทุน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น