วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Gold Brief News 9/12/56

Gold Brief News 9/12/56 

สรุปเหตุการณ์ราคาทองสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัปดาห์รายงานตัวเลขเศรษฐกิจกลุ่ม Job Date ของสหรัฐฯ ที่มีทั้งรายตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนซึ่งสำรวจโดยบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐฯ หรือ ADP  รายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ และรายงานตัวเลขHighlight อย่างการจ้างงานนอกภาคเกษตรฯ ที่ทุกตัวเลขทยอยออกมาดีตามกันไป
สำหรับตัวเลขเศษฐกิจในสหรัฐฯอื่นๆ ภาพรวมออกมาดีขึ้น รวมถึงธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมวันพฤหัสบดี และไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆเกี่ยวกับการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ.....แน่นอนจากปัจจัยพื้นฐานดังกล่าวส่งผลลบต่อราคาทองคำมากกว่า
โดยที่กรอบราคาของสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนับตั้งแต่จุดสูงสุดของวันจันทร์จนถึงจุดที่ราคาทองเคลื่อนไหวลงมาถึงจุดต่ำสุด มีการย่อตัวลงมาถึง 37เหรียญโดยประมาณ แต่หากมองจากจุดสูงสุดของวันจันทร์จนถึงจุดที่ราคาทองปิดตลาด มีการปรับตัวย่อลงมา 19 เหรียญ
ขณะที่นักลงทุนหลายท่านมีคำถามเกิดขึ้นว่า ตอนที่ประกาศรายงานตัวเลขนอกภาคเกษตรฯสหรัฐฯ ทั้งที่จากผลสำรวจของภาคเอกชนในวันพุธ และประกาศโดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯในวันศุกร์ ล้วนออกมาดี โดยปกติราคาทองคำก็น่าจะปรับตัวลงมาต่อเนื่อง แต่ราคาทองกลับมีการย่อลงมาก่อนแล้วค่อยดีดกลับขึ้นไป แถมยังปรับตัวขึ้นสูงกว่าตอนที่ราคาลงมาอีก ทั้งวันพุธและวันศุกร์....โดยเราหาคำตอบมาได้ ประเดน คือ
1.    ราคาทองได้ลงเคลื่อนไหวมาอยู่บริเวณที่ใกล้ราคาที่อ้างว่า เป็นราคาที่ใกล้ราคาที่บรรดาผู้ประกอบการเหมืองทองเคยกล่าวไว้ว่า หากราคาทองต่ำกว่า 1200 USD ต่อ ทรอยออนซ์ จะมีการหยุดทำเหมืองทอง
2.    เหตุผลธรรมดาที่สุดก็คือ ของถูกใครๆก็แห่เข้าซื้อ กรอปกับอีกทั้งราคาทองขึ้นถึงจุดแนวต้านทางเทคนิคที่สำคัญได้แก่บริเวณ 1250 ถึง1251 ในวันพุธและ 1233 ในวันศุกร์ โดยประมาณ และนั่นเป็นสัญญาณที่นักลงทุนกลับมาเห่ขาย
3.    สำหรับข่าวที่ไม่ได้กรอง ก็มีกระแสการเข้าซื้อของถูกจากบรรดากองทุนทองคำ และบรรดา Hedge Fund ต่างๆ
เหล่านี้คือปัจจัยต่างๆที่ส่งผลกับราคาทองเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าสนใจสัปดาห์นี้

สำหรับแนวโน้มราคาทองคำสัปดาห์นี้ เริ่มด้วยรายงานตัวเลขเศรษฐกิจประจำสัปดาห์ ที่ส่งผลกับราคาทอง
วันจันทร์: รายงานตัวเลขเศรษฐกิจค่อนข้างเบาบาง
08:30 น. รายงานตัวเลข ดัชนีผู้บริโภค หรือ CPI ของจีน ซึ่งคาดว่าลดลง
14:00 น. รายงานตัวเลขดุลการค้าของเยอรมันนี ซึ่งคาดว่าลดลง
18:00 น. รายงานตัวเลขภาคการผลิตโรงงานอุตสาหกรรมของเยอรมัน เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยคาดว่าเพิ่มขึ้น
ตี 1 ห้านาที  นายเจมส์ บุลลาร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯหรือ Fedสาขาเซนต์หลุยส์ ออกมารายงานและแสดงความคิดเห็นในเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งอาจมีผลบ้างนิดหน่อย เพราะเป็นสมาชิก Fed ที่มีสิทธิ์ในการVote เสียงในการกำหนดดอกเบี้ยและนโยบายของ Fed

วันอังคาร: รายงานตัวเลขเศรษฐกิจค่อนข้างเบาบาง
12:30 น. รายงานตัวเลขภาคการผลิต และยอดค้าปลีก ของจีน ซึ่งคาดว่าจะลดลงและคงที่
19:00 น. นายมาริโอ ดาร์กี้ ออกมากล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจ และเรื่องอัตราดอกเบี้ยของยูโรโซน
สำหรับฝั่งสหรัฐฯไม่ค่อยมีรายงานตัวเลขอะไรที่น่าสนใจ

วันพุธ: รายงานตัวเลขเศรษฐกิจค่อนข้างเบาบางอีกเช่นกัน
14:00 น. รายงานตัวเลข ดัชนีผู้บริโภค หรือ CPI ของยูโรโซน ซึ่งคาดว่าคงที่
22:30 น. รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ
ตี งบดุลรัฐบาลสหรัฐฯ หรือ Federal Budget Balance ซึ่งคาดการณ์ว่าจะติดลบเพิ่มขึ้

วันพฤหัสฯ: แต่เช้าตรู่
07:30 น. รายงานตัวเลขการจ้างงานและอัตราการว่างงานของ ออสเตรเลีย ซึ่งคาดว่าตัวเลขทั้งคู่จะออกมาแย่กว่าครั้งก่อนเล็กน้อย
ข้ามมาฝั่งสหรัฐฯ มีรายงานตัวเลขตอน ทุ่มครึ่ง อันได้แก่ ตัวเลขยอดค้าปลีก ที่มีการคาดว่าจะดีขึ้นและตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯประจำสัปดาห์ ซึ่งงานนี้คาดการว่าลดลง

วันศุกร์: ตบท้ายเบาๆ ด้วยรายงานตัวเลขฝั่งสหรัฐฯอย่าง ดัชนีราคผู้ผลิต ซึ่งคาดว่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

*ทั้งหมดทั้งมวลชี้ให้เห็นว่า แนวโน้มราคาทองสัปดาห์หน้ามีกรอบราคากว้างๆแบบน่าเกลียดนิดๆที่ บริเวณแนวต้าน 1243 และแนวรับที่ 1213ใกล้เคียงกรอบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยโอกาสที่ราคาทองจะต่ำกว่า1200 ขณะนี้ยังไม่เห็น แม้มองจากภาพรวมเหมือนราคาทองกำลังรอเลือกทาง แน่นอนส่วนหนึ่งรอผลการประชุม Fed ในวันที่ 17-18 ธันวาคม 56 นี้ หรือสัปดาห์หน้านี้เอง

แนวรับ-แนวต้าน ทองคำ วันที่ 9/12/56
R3=1243
R2=1236
R1=1232
S1=1223
S2=1220
S3=1217

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น