วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2556

บทความแนวโน้มราคาทอง วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2556 (รอบเย็น)

บทความแนวโน้มราคาทอง วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2556 (รอบเย็น) 

สรุปภาพรวมของตลาดเมื่อวานนี้

เห็นได้ชัดว่าการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นสหรัฐฯ (DJ) ค่าเงิน USDJPY และราคาทองคำอยู่ในกรอบแคบหรือแนวรับแนวต้านปรกติเพื่อรอผลของตัวเลขการจ้างงานใหญ่ของสหรัฐฯวันพรุ่งนี้ คงมีเพียงราคาน้ำมันดิบที่รูดหลุดแนวรับจิตวิทยาแถวบริเวณ 100 ลงมาถึงจะมีการดีดตัวขึ้นบ้างหลังจากนั้นแต่ก็ต้องรูดลงอีกระลอกหลังตัวเลขสต๊อคน้ำมันดิบได้ออกมาค่อนข้างแย่ (สต๊อคเพิ่ม 4.0m vsfc 2.2m)

สิ่งที่น่าสนใจและจับตาดูวันนี้

แน่นอนคือ ผลของตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ (Non-farm payroll) และ Unemployment rate โดยช่วงของการคาดการณ์ของตลาดส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 160k to 180k หมายความว่าถ้า NFP ออกมามากกว่า 180k ก็จะถือว่าค่อนข้างดี แต่ถ้าออกมาน้อยกว่า 160k ก็ถือว่าค่อนข้างไม่ดีครับ ส่วนอัตราการว่างงานถูกคาดว่าจะคงที่ที่ 7.3% อย่างไรก็ตามจากสถิติย้อนหลัง 3 เดือนคือ 7 , 8 และ 9  NFP ออกมาแข็งแกร่งกว่าคาดเพียง 1 เดือน (เดือน7) ตามด้วยอ่อนแอกว่าคาดในเดือน 8 และ 9 โดยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน (ADP) ออกมาแข็งกว่าคาดในเดือน 7 และ 8 และอ่อนแอกว่าคาดเล็กน้อยในเดือน 9 เท่านั้น แต่โดยเดือนล่าสุด (เดือน 10) ADP ได้ออกมาอ่อนแอกว่าการคาการณ์ของตลาดมากกว่าครั้งเดือน 9 คือ 166 k vsfc 180k และดูจากสถิติย้อนหลังของตัวเลข ADP ตั้งแต่ปี 2011 ปรากฎว่าออกมามากกว่าการคาดการณ์ของตลาด 21 ครั้ง ในขณะที่น้อยกว่าคาดเพียง 12 ครั้ง ส่วนสถิติของ NFP ปรากฎว่าออกมามากกว่าคาด 16 ครั้งในขณะที่ออกมาน้อยกว่าคาด 16 ครั้งเช่นกัน (เขียนซะยาว สรุปว่าตามสถิติแล้วโอกาสที่ US.NFP จะออกมาน่าผิดหวังมีมากกว่าตัวเลข ADP ค่อนข้างเยอะ และ ADP ก็ได้ออกมาน้อยกว่าคาดแล้วล่าสุดนี้ เพราะฉะนั้นมีโอกาสสูงมากที่ US.NFP จะออกมาน้อยกว่า 180k ครับ แต่ที่ทำให้ผู้เขียนมึนก็คือ ตัวเลข Jobless claims ในเดือนที่แล้วแทบทั้งเดือนล้วนออกมาดีมากๆ ซึ่งอาจส่งผลทางจิตวิทยาให้ตัวเลข NFP อาจพลอยดีตามด้วย แต่ทว่าตัวเลขที่ดีส่วนใหญ่ถูกทางแผนกแรงงานของสหรัฐฯอ้างว่าเกิดปัญหาคอมพิวเตอร์ในรัฐต่างๆ โดยเฉพาะรัฐ California อย่างไรก็ตามผู้เขียนยังเชื่อลึกๆว่าตัวเลขน่าจะออกมาทางด้านน้อยแถมประธานเฟดหลายท่านก็เริ่มออกมาพ่นน้ำลายประมาณว่าคงจะไม่มีการลด QE ลงเร็วๆนี้ ทั้งๆที่ยังไม่เห็นผลของตัวเลขการจ้างงานเลย เพราะฉะนั้นตัวเลขที่ค่อนข้างดีอาจทำให้ราคาทองคำรูดลงเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ถ้าออกมาอ่อนแอหรือไม่ดีราคาทองคำอาจพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วและดูจากสถิติตามภาพทางเทคนิคลักษณะนี้ (วันที่ 4) โอกาสขึ้นแล้วจบบนมีถึง 5 ภาพ ใน 8 ภาพ เหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลง 1 ภาพ และลงจบล่าง 2 ภาพใน 8 ภาพ ถ้ายังอ่านแล้วงงๆ ก็อ่านซ้ำอีกรอบนะครับ ทั้งหมดคือสถิติเท่านั้น

แนวโน้มและกลยุทธ์ประจำวันนี้

ภาพใต้สมุมติฐาน ถ้าอัตราการว่างงานออกมาคงที่ที่ 7.3% และราคาทองคำยังคงอยู่แถวบริเวณ 1315+/- เล็กน้อย แล้ว NFP ออกมาที่
201k to 250k ยอมรับว่าราคาทองคำคงรูดลงอย่างรวดเร็วครับ ขายให้ทันแล้วกัน ดูแนวรับจิตวิทยาแถวบริเวณ 1300 ด้วยเผื่อจะตัดทำกำไรส่วนหนึ่งถือไว้ลุ้นส่วนหนึ่งครับ
181k to 200k ราคาทองคำยังมีโอกาสลงครับและให้ระมัดระวังด้วย ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าจะมีแรงซื้อคืนทำกำไรหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับว่าออกมาใกล้ด้านล่างหรือด้านบนครับ
161k to 180k No one land ลงทุนค่อนข้างยากครับ โปรดใช้ความระมัดระวังอย่างสูง แต่ถ้าออกมาค่อนไปทางด้านล่างเผลอๆอาจเข้าซื้อได้ครับ
121k to 160k ราคาทองคำมีโอกาสดีดขึ้นค่อนข้างแน่นอนครับ ให้เข้าซื้อทันที ซ้อม Click ซ้อมนิ้วกันแล้วยัง กดไม่ทันช่วยไม่ได้นะครับ ใช้ระบบสู่ครึ่งถอยครึ่งครับ ดูแนวต้านแถวบริเวณ 1325 ขึ้นไป
101k to 120k จัดซื้อทองคำเยอะหน่อย ดู Port ของตัวเองนะครับ ยังคงให้กลยุทธ์สู่ครึ่งถอยครึ่ง
น้อยกว่า 100k จัดเต็มครับงานนี้ รวยกันให้หายเซ็งที่รอคอยตัวเลขกันมานาน ราคาทองคำมีโอกาสทะลุ 1330 ค่อนข้างมาก ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้แนวต้านถัดไปจะอยู่ไกลไปถึง 1340 up เลยล่ะครับ
ขอให้ผู้อ่านและนักลงทุนทุกท่านโชคดีครับ

แนวรับ-แนวต้านทอง วันที่ 22/10/56 updated at 17.39 
R3=1340/1345
R2=1326.50/1330*
R1=1320/1325
S1=1310/1308*
S2=1305/1300
S3=1295
………………………………………
หมายเหตุ: บทความนี้ถูกจัดทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่เชื่อว่าหรือควรเชื่อว่ามี ความน่าเชื่อถือ และ / หรือมีความถูกต้อง อย่างไรก็ตามผู้จัดทำไม่รับรองความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลดังกล่าวข้อมูลและความเห็นที่ปรากฎข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผู้จัดทำไม่มีความประสงค์ที่จะชักจูงหรือชี้ชวนให้ผู้ลงทุนลงทุนซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ผู้จัดทำจึงไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการนำข้อมูลหรือความเห็นของบทความนี้ไปใช้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบในการตัดสินใจลงทุ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น