วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556

บทควาทแนวโน้มราคาทอง วันที่ 24/10/56 (รอบเย็น)

บทความแนวโน้ม ทอง วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม 2556 (รอบเย็น)

สรุปภาพรวมของตลาดเมื่อวานนี้
ภาพรวมตลาดเข้าสู่ภาวะการพักตัวหลังค่าเงิน USD รูดลงอย่างค่อนข้างแรงจากผลของตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมซึ่งได้ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตามตัวเลขของสหรัฐฯใช่ว่าจะเลวร้ายไปซะทั้งหมด อัตราการว่างงานยังลดลงต่อเนื่อง (7.2% vsl 7.3%) แต่ก็คงไม่เพียงพอที่จะทำให้บรรดาประธานเฟดหลายท่านที่หัวแข็งจะยอมตัดสินใจลดขนาดของ QE ลงในการประชุมปลายเดือนนี้ (29-30/10/13) เป็นไปได้สูงว่าจะมีการตัดสินใจที่ขัดแย้งกัน แต่ที่น่าสนใจก็คือ ในการประชุมครั้งนี้ถูกระบุจะเป็นการประชุมแบบเปิดและตามด้วยการแถลงข่าวด้วย ปัญหาเปราะบางทางงบประมาณและเพดานหนี้ของสหรัฐฯก็ยังไม่ได้จบหรือลุล่วงด้วยดีสักเท่าไหร่เป็นแค่เพียงขายผ้าเอาหน้ารอด ฉะนั้นเฟดยังคงมีข้อแก้ตัวที่จะไม่ลดขนาดของ QE ลงในครั้งนี้ครับ การพักตัวได้รับการสนับสนุนด้วยจากข่าว (กระแส) ที่ตลาดวิตกต่อเงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้นอีกระลอกของจีนประกอบกับปัญหาหนี้เสียที่พุ่งขึ้นในธนาคารพานิชย์ใหญ่ๆของจีนและอาจนำมาซึ่งนโยบายที่เข้มงวดของทางจีน อย่างไรก็ตามมันก็แค่การพักตัวเท่านั้นครับ  

สิ่งที่น่าสนใจและจับตาดูวันนี้
ผ่านไปแล้วสำหรับตลาดเอเชียโดยตัวเลข HSBC PMI ของจีนได้ออกมาดีกว่าการคาดการณ์ของตลาดเล็กน้อย ซึ่งก็ส่งผลบวกต่อ Risk appetite โดยรวม (ค่าเงิน USD อ่อนค่าลงเล็กน้อย) ส่วนสำหรับตลาดยุโรปผลของตัวเลข PMI & SI ของทั้งเยอรมนีและยูโรโซนโดยรว มได้ออกมาค่อนข้าง Mixed แต่อ่อนแอกว่าการคาดการณ์ของตลาดโดยส่วนใหญ่ซึ่งก็ได้กดให้ค่าเงินยูโรรูดลงจากระดับ New high กดดัน risk appetite บ้างเล็กน้อย (ตรงข้าม Risk appetite ก็คือ Risk aversion ซึ่งกลับเป็นอนิสงฆ์ต่อค่าเงิน USD เล็กๆ) ส่วนในตลาดอเมริกาตลาดน่าจะให้ความสำคัญต่อผลของตัวเลข US.Jobless claims ซึ่งยังคงถูกรบกวนด้วยปัญหาคอมพิวเตอร์ในบางรัฐของสหรัฐฯ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่ ทำให้คาดการณ์ผลต่อตลาดได้ค่อนข้างยากครับ อย่างไรก็ตามโอกาสที่จะออกมาในเกณฑ์ที่ดีกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าก็มีค่อนข้างสูงครับ ซึ่งก็อาจส่งผลบวกเล็กๆต่อทองคำ  

แนวโน้มและกลยุทธ์ประจำวันนี้

หลังราคาทองคำทะยานหลุด Pattern เล็กๆอีกรอบที่ระดับแนวต้าน 1326.50 และผ่านแนวต้านระดับ 1330 ไปได้ไม่ยากเย็นนักจากผลของตัวเลข US.NFP ซึ่งทำให้แนวโน้มการที่เฟดจะลดขนาดของ QE ลงในการประชุมปลายเดือนนี้มีลดลงอย่างมาก กลยุทธ์ซึ่งผู้เขียนให้ไปในวันนั้นก็ยังคงทำงานได้ดีตามทุกเดือนที่ผ่านมา คราวนี้ตกอยู่ในช่วง 121k to 160k (148k) ซึ่งก็น่าจะทำให้นักลงทุนหลายท่านได้กำไรกันไปแบบพอหมดปากหอมคอนะครับ ผู้เขียนก็ได้กำไรแต่ไม่เท่าที่ควรเนื่องจากติดภาระกิจจึงไม่อยากมีกังวล (แก้ตัวหรอ) กำไรมากกำไรน้อยก็คือ กำไรครับ ดีกว่าไม่ได้เข้าลงทุนหรือขาดทุนนะครับ ขอแค่บทความนี้เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านและนักลงทุนทุกท่านผู้เขียนก็มีความสุขแล้วครับ วกมาเข้าเรื่องกันอีกครั้งการพักตัวได้เกิดขึ้นเมื่อวานนี้โดยได้รับข่าวลบทางจีน แต่ราคาทองคำก็สามารถยืนระดับได้ค่อนข้างดีแถวบริเวณ 1330+/- (อย่าลืมว่าแนวต้านของชุดที่แล้วที่หลุดขึ้นมาคือ 1326.50) ซึ่งจริงๆก็เหมาะแก่การเข้าช้อนซื้ออย่างยิ่งนักแต่บังเอิญเมือวานเป็นวันหยุดจึงไม่ได้ออกบทความให้ อย่างไรก็ตามจากภาพทางสถิติย้อนหลัง วันนี้โอกาสที่ราคาทองคำจะทะยานขึ้นอีกระลอกมีถึง 5 ภาพใน 7 ภาพ ส่วนอีก 2 ภาพคือการพักตัวต่ออีกวัน ส่วนภาพลงหรือหลุด Pattern กลับลงมาเลยไม่มีครับ (ไม่รู้ผู้เขียนหาไม่เจอหรือ

เปล่า เพราะกำลังหมกมุ่นกับการเตรียมพร้อมสำหรับงานสัมมนาวันเสาร์นี้ที่ 26นี้) อย่างไรก็ดูแนวรับแถวบริเวณ 1330+/- แล้วกันนะครับ เพื่อความไม่ประมาท Sentiment วันนี้ถือว่า Neutral to slightly bullish กลยุทธ์วันนี้เนื่องจากราคาทองคำได้ขยับขึ้นมาแล้วหลังทดสอบแนวรับไปเมื่อวานอย่างโชกโชน (ถึง 5 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย) การไล่ซื้ออาจดูสุ่มเสี่ยงพอสมควรถึงแม้การเข้าขายก็ไม่ได้สนับสนุน ถ้านักลงทุนท่านใดไม่ได้ช้อนซื้อไว้ตั้งแต่เมื่อคืนตอนนี้อานรอดูผลของตัวเลข US.Jobless claims ก่อนครับ ถ้าออกมาดีมาก (น้อยกว่า 320kโดยไม่มีข้ออ้างของทางแผนกแรงงานสหรัฐฯ) ก็น่าเข้าขายสั้นๆได้นะครับสำหรับบรรดา Bears แต่ส่วนผู้เขียนคงขอสละสิทธิ์ แต่ถ้าออกมาแย่ล่ะ (มากกว่าครั้งที่แล้ว) ก็น่าจะเข้าซื้อครับ แนวต้านสำคัญจะอยู่แถวบริเวณ 1343/1345 ครับ ถ้าสามารถทะลุขึ้นไปได้อย่างชัดเจน แนวต้านถัดไปจะกระโดดไปที่ 1348/1352 เลยครับ ด้านล่างดูที่ 1330+/- ตามด้วย 1326.50/1325 ครับ ขอให้ผู้อ่านและนักลงทุนทุกท่านโชคดีครับ     

แนวรับ-แนวต้าน ทอง วันที่ 24/10/56 updated at 18.10น. R2=1348/1352
R1=1343/1345*
S1=1335/1333
S2=1330/1328  
.................
หมายเหตุ: บทความนี้ถูกจัดทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่เชื่อว่าหรือควรเชื่อว่ามี ความน่าเชื่อถือ และ / หรือมี ความถูกต้อง อย่างไรก็ตามผู้จัดทำไม่รับรองความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลดังกล่าวข้อมูลและความเห็นที่ปรากฎข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผู้จัดทำไม่มีความประสงค์ที่จะชักจูงหรือชี้ชวนให้ผู้ลงทุนลงทุนซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ผู้จัดทำจึงไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการนำข้อมูลหรือความเห็นของบทความนี้ไปใช้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบในการตัดสินใจลงทุน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น