วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556

บทความแนวโน้มราคาทอง วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2556 (รอบเย็น)

บทความแนวโน้มราคาทอง วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2556

สรุปภาพรวมของตลาดสัปดาห์ที่แล้ว

เริ่มต้นด้วยบรรยากาศที่คลี่คลายลงของสถานการณ์ในซีเรีย และ การปรับ Positioned เพื่อรอคอยผลของการประชุม FOMC โดยตลาดคาดหวังว่าเฟดจะมีการปรับลดขนาดของ QE ลง ประมาณ $5b to $10b แต่ผลก็ปรากฎว่าเฟดตัดสินใจที่จะไม่ลดโดยให้เหตุผลว่าตัวเลขเศรษฐกิจตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมาไม่แข็งแกร่งพอซึ่งโดยปรกติแล้วเฟดมักจะดูกระแสการคาดกาณณ์ของตลาดเสมอๆและไม่ค่อยฝืนกระแสด้วย แต่ครั้งนี้ก็เป็นเครื่องยืนยันว่ามีอะไรเข้าแทรกแซงเฟด แต่ก็นั่นแหล่ะก็ส่งให้ราคาทองคำทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่จะขึ้นไปพบแนวต้านในวันถัดไปซึ่งผู้เขียนก็ได้รายงานไปแล้ว 1.คือ เส้นความเคลื่อนไหวเฉลี่ย 21periods ในกราฟรายวัน 2. Trendline resistance ซึ่งเคยเป็น Trendline support ของชุดที่แล้ว อย่างไรก็ตามโดยปรกติราคาทองคำก็น่าจะเคลื่อนไหวในลักษณะพักตัวออกด้านข้างสักระยะเพื่อที่จะขึ้นต่อหรือกลับวกลงมา ซึ่งโดยสถิติก็มักจะใช้เวลาอย่างน้อย 4 ถึง 5 วัน แต่ Fed’s Bullard ก็โผล่ออกมาทำคลอดก่อนกำหนดโดยเข้ากลับกล่าวว่า เฟดอาจจะมีการปรับลด QE ลงในการประชุมเดือนตุลาคมนี้ซึ่งจะเป็นการประชุมสดแบบประมาณว่ามี Press conference ด้วย กดให้ราคาทองคำรูดลงเกินความคาดหมาย (ด้านภาษาเทคนิคที่ควรจะเป็น) ท่าทางเจ้าหน้าที่หรือประธานเฟดบางท่านจะดูเพี้ยนๆ พูดจาไม่ค่อยจะเข้าร่องเข้ารอยซึ่งถือว่าไม่เคยเกิดขึ้นก่อนในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ผู้เขียนเข้าสู่วงการนี้ตั้งแต่ปลายสมัยประธานาธดีเรแกนซึ่งผู้เขียนเคยวิจารณ์ไปแล้วหลายครั้ง ต่อด้วยความเห็นของ Fed’s George ซึ่งเธอกล่าวว่าการที่เฟดพลาดที่จะตัดสินใจลด QE ลงในการประชุมครั้งนี้จากการคาดการณ์โดยรวมของตลาดถือเป็นความผิดพลาดและอาจทำให้เฟดสูญเสียเครดิตต่อตลาด (ถูกต้องแล้วครับ) และนั่นก็ช่วยทุบราคาทองคำซ้ำลงไปอีกประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ยังคงรูดลงต่อเนื่องหลังข่าวซีเรียที่คลี่คลายลงอย่างต่อเนื่อง  

สิ่งที่น่าสนใจและจับตาดูเป็นพิเศษสัปดาห์นี้

นับเป็นสัปดาห์ที่ค่อนข้างเบาบางสำหรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แต่ก็คับคั่งไปด้วยบรรดาน้ำลายแตกของบรรดาประธานเฟดหลายๆท่านที่จะออกมาพ่นน้ำลายกันอย่างมากหน้าหลายตา ซึ่งก็อาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็คงต้องทนติดตามกัน โดยผู้เขียนเชื่อว่า เฟดจะนำพาสหรัฐฯและตลาดการเงินโลกเข้าสู่หายนะครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งทีเดียว (รอติดตามกันแล้วกัน) ส่วนสำหรับตัวเลขที่อาจน่าจับตาดูก็เริ่มกันตั้งแต่

วันจันทร์ เช้า คือตัวเลข HSBC PMI ของจีนซึ่งก็ได้ออกมาดีกว่าการคาดการณ์ของตลาดเล็กน้อย (51.2 vsfc 50.9 vsl 50.1) ซึ่งก็ส่งผลให้บรรดา Commodity currencies ปรับตัวขึ้นบ้างพร้อมทั้งตลาดหุ้นจีน เข้าสู่ตลาดยุโรปด้วย PMI & SI (Aug) ของทั้งเยอรมนีและยูโรโซนโดยรวม ซึ่งถูกคาดว่าจะดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าและส่งให้ค่าเงิน EUR.USD ปรับตัวขึ้นไปรอแต่ผลก็ออกมาค่อนข้าง Mixed โดย PMI อ่อนแอกว่าคาดในขณะที่ SI แข็งแกร่งกว่าคาด ส่งผลให้ค่าเงิน EUR.USD ปรับตัวลงบ้าง ส่วนในตลาดอเมริกาไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอะไรครับ แต่ก็จะมีบรรดาประธานเฟดสาขาต่างๆออกมาพ่นน้ำลายกันตรึมถึง 3 ท่าน

วันอังคาร เริ่มกันที่ตลาดยุโรปคือ ตัวเลขเยอรมัน IFO (สำรวจบรรยากาศทางธุรกิจ) เวลา 15.00น. ซึ่งถูกคาดว่าจะดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย ส่วนในตลาดอเมริกาก็เริ่มกันด้วยตัวเลขยอดขายปลีกของแคนาดาเวลา 19.30น. ต่อด้วยตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯเวลา 21.00น. ซึ่งถูกคาดว่าจะลดลงเล็กน้อย และแถมด้วยบรรดาน้ำลายของเจ้าหน้าที่เฟดอีกอย่างน้อย 2 ท่าน

วันพุธ  เบาๆที่ตลาดยุโรปด้วยตัวเลขเยอรมัน GFK ต่อด้วยตลาดอเมริกาคือ ตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ เวลา 19.30น. ตบท้ายด้วยตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ เวลา 21.00น. 

วันพฤหัสบดี เริ่มกันที่ตลาดยุโรปด้วยตัวเลข GDP ประจำไตรมาสที่ 2 (Final) ของอังกฤษ เวลา 15.30น. ต่อด้วยตลาดอเมริกาตั้งแต่ Jobless claims เวลา 19.30น. ซึ่งถือว่าค่อนข้างสำคัญเพราะจะเป็นบทพิสูจน์ว่าจะยังคงดีต่อเนื่องหรือไม่หลังปัญหาคอมพิวเตอร์ พร้อมกับการประกาศตัวเลข GDP F (2Q) ตบท้ายด้วย Pending home sales เวลา 21.00น. และบรรดาน้ำลายท่วมทุ่งของเจ้าหน้าที่เฟดอีกอย่างน้อย 2 ท่าน

วันศุกร์ ก็เริ่มที่ตลาดยุโรปด้วยตัวเลขความเชื่อมั่นภาคต่างๆของยูโรโซน เวลา 16.00น. , GER : CPI เวลา 19.00น. ส่วนในตลาดอเมริกาก็จะมีการประกาศตัวเลข Personal income & spending เวลา 19.30น. ต่อด้วย  U.Mich sent (F) เวลา 20.55น. และคับคั่งด้วยบรรดาประธานเฟดสาขาต่างๆตลอดทั้งวัน (ความเสี่ยงล้วนๆ)

สิ่งที่น่าสนใจและจับตาดูวันนี้

ผ่านไปหมดแล้ว คงเหลือแต่กักระเบิดที่ฝังซ้อนอยู่เต็มไปหมดในตลาดอเมริกา อย่างน้อย ก็ 3 ลูกครับ

แนวโน้มและกลยุทธ์ประจำวันนี้

ราคาทองคำถูกทุบลงมา (น่าสงสารจัง) ในวันศุกร์และรุนแรงเกินความคาดหมายของผู้เขียน บรรดา Bulls คงต้องโยนความผิดให้กับนาย Bullard ซึ่งกระตุ้นแรงเทขายจากคำพูดซึ่งผู้เขียนได้รายงานไปแล้ว แต่ก็อย่าลืมนะครับว่า Fed’s Bernanke ก็เคยพูดทำนองนี้ไปแล้วและในการประชุม (Sep) ก็ไม่ได้มีการลด QE แต่ประการใด เราคงต้องจับตาดูรายงานตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯต่อไปอย่างใกล้ชิดและทำกำไรไปโดยไม่ต้องคำนึงถึงคำพูดของบรรดาประธานเฟดครับ เพราะจริงๆก็คือ มันขึ้นอยู่กับผลของตัวเลขนี้เป็นหลักว่าเฟดควรจะทำอย่างไร บังเอิญเดือนที่แล้ว NFP ได้ออกมาค่อนข้าง Mixed และน่าผิดหวังเล็กๆ ส่วนวั้นนี้เมื่อวันศุกร์จบที่ระดับต่ำถึงต่ำสุด ปรกติถ้าต้นตลาดวันนี้มีการปรับตัวขึ้นก่อนแบบค่อยเป็นค่อยไปก็เหมาะแก่การเข้าขายสั้นๆ แต่ความจริงก็ดันรูดลงก่อนเป็นอันไม่เข้าสูตรทางเทคนิคอีกตามเคย อย่างไรก็ตามการดีดตัวกลับขึ้นไปดูไม่ค่อยแข็งแกร่งนัก จึงอาจมีการปรับลงได้อีกระลอกนะครับ แต่การเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ตามสถิติย้อนหลังปรากฎว่า โอกาสที่จะรูดลงมาอีกกับปรับขึ้นต่อเนื่องมีใกล้เคียงกันครับ (3:2) Sentiment วันนี้ถือว่า Neutral to slightly bearish กลยุทธ์วันนี้คือ Bears ดักขายสั้นๆครับใกล้หรือแถวบริเวณแนวต้าน (1330+/-) Bulls น่าจะเสียโอกาสซื้อที่ดีไปแล้วตอนช่วงเช้า ผู้เขียนก็อดเพราะอยู่ในตำแหน่งที่กั๊กๆ (1313+/-) อย่างไรก็ดูแนวรับแนวต้านซึ่งผู้เขียนส่งไปให้ดูแล้วกัน ในวันศุกร์ดีนะที่ผู้เขียนเผ่นหนีทันไม่งั้นโดนน้ำลายกรดของ Fed’ Bullard หน้าตาคงเสียโฉมลดหล่อลงไปแน่เลย แต่ก็มีกระเด็นโดนเสื้อผ้าหล่อๆไปนิดนึง (เสียดายเสื้อจัง) โอกาสที่เหลือคงเป็นการดักขายดีกว่านะครับ แต่กว่าจะได้บทความของผู้เขียนราคาทองคำอาจมีการปรับตัวลงบ้างแล้ว สรุป คือ Wait&See บ้างก็ได้นะครับ ส่วนผู้เขียนปรกติวันจันทร์ไม่ค่อยเข้าลงทุนอยู่แล้ว (จำได้ไหม) แถมไม่มีตัวเลขอะไรของสหรัฐฯสำคัญๆที่จะถูกประกาศออกมาคืนนี้ด้วย แต่ถ้าจะทำอะไรอาจเป็นการเข้าดักขายสั้นๆ หรือ ไม่ก็รอดักสวนซื้อไปเลยถ้าพลาดโอกาสขายแล้วราคาทองคำดันรูดลงมาทำ New day low ทุกอย่างแบบตีหัวเข้าบ้านครับ ขอให้ผู้อ่านและนักลงทุนทุกท่านโชคดีครับ    
                                  
แนวรับ-แนวต้านวันนี้ updated at 16.25น.
R3=1340/1345
R2=1335*
R1=1330/1332
S1=1320/1318
S2=1313/1310
S1=1305/1300
…………………………….
หมายเหตุ: บทความนี้ถูกจัดทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่เชื่อว่าหรือควรเชื่อว่ามี ความน่าเชื่อถือ และ / หรือมีความถูกต้อง อย่างไรก็ตามผู้จัดทำไม่รับรองความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลดังกล่าวข้อมูลและความเห็นที่ปรากฎข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผู้จัดทำไม่มีความประสงค์ที่จะชักจูงหรือชี้ชวนให้ผู้ลงทุนลงทุนซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ผู้จัดทำจึงไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการนำข้อมูลหรือความเห็นของบทความนี้ไปใช้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบในการตัดสินใจลงทุน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น